"กฎหมายว่าด้วยกิจกรรมทางศาสนา" ซึ่งเป็นกฎหมายด้านศาสนาฉบับแรกของจีน ได้บังคับใช้มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายหุยเหลียงอวี้ รองนายกรับมนตรีจีนกล่าวที่กรุงปักกิ่งว่า ตั้งแต่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นต้นมา สิทธิประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของวงการศาสนาได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่

จีนเป็นประเทศที่มีหลายศาสนา อาทิ พุทธศาสนา ลัทธิเต๋า อิสลาม คริสและโรมันคาทอลิก มีผู้นับถือศาสนากว่า 100 ล้านคน สถิติปรากฎว่า จีนมีสถานที่จัดพิธีทางศาสนากว่า 8 หมื่นแห่ง องค์กรทางศาสนากว่า 3,000 คณะ ชาวจีนสามารถนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งได้อย่างเปิดเผยและเสรี

เมื่อปี 1982 รัฐธรรมนูญจีนได้กำนดหลักการเกี่ยวกับเสรีภาพในการนับถือศาสนา ปี 1994 รัฐบาลจีนประกาศกฎบริหารศาสนา 2 ประการ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2005 เริ่มบังคับใช้ "กฎหมายว่าด้วยกิจกรรมทางศาสนา" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่า จีนเริ่มบริหารกิจกรรมทางศาสนาตามกฎหมาย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายหุยเหลียงอวี้รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในการประชุมสัมมนาครั้งหนึ่งที่กรุงปักกิ่งว่า

"หลังจากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว สิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของวงการศาสนาได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ กระบวนการสร้างระบบกฎหมายด้านศาสนาประสบผลคืบหน้าอย่างมาก ข้าราชาการที่บริหารกิจการด้านศาสนา ตลอดจนบุคคลในวงการศาสนามีจิตสำนึกที่จะปฏิบัติตามกฎหมายเพิ่มมากขึ้น แวดวงศาสนามีความมั่นคงและสมานฉันท์"

พระมหาเถระ ฉวนอิ้น นายกสมาคมพุทธศาสนาจีนกล่าวว่า

" "กฎหมายว่าด้วยกิจกรรมทางศาสนา" มีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิของสถานที่ทางศาสนา ผู้ประกอบกิจทางศาสนา และเน้นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์และทรัพย์สินของวงการศาสนา บุคคลในวงการศาสนาและศาสนิกชนล้วนแสดงความชื่นชมต่อกฎหมายดังกล่าว และเห็นว่าเป็นการปูพื้นฐานสำหรับการส่งเสริมการพัฒนากิจการศาสนา"

นอกจากการพัฒนาระบบกฎหมายเกี่ยวข้องกับศาสนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นแล้ว รัฐบาลจีนยังเพิ่มการสนับสนุนต่อองค์กรทางศาสนา สถาบันฝึกอบรมด้านศาสนาและการก่อสร้างสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นทศวรรษปี 1980 รัฐบาลจีนเริ่มจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างและูบูรณะซ่อมแซมวัดวาอารามและโบสถ์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา ได้เพิ่มงบประมาณให้สูงขึ้นเป็น 15 ล้านหยวนต่อปี ขณะเดียวกัน ได้ให้นโยบายพิเศษและสนับสนุนการก่อสร้างสถานที่ทำงานและสถาบันฝึกอบรมด้านศาสนาที่มีผู้นับถือมากสำคัญ 5 ศาสนาเช่นพุทธศาสนา เป็นต้น

นายหุยเหลียงอวี้รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า

"จีนจะพัฒนาระบบกฎหมายด้านศาสนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพิ่มการบัญญัติกฎหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศาสนา พยายามแก้ปัญหาด้านการประกันสังคมของผู้ประกอบกิจทางศาสนา สนับสนุนและช่วยเหลือสมาคมศาสนาและสถาบันศาสนา ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมการทำงานและการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น ช่วยแก้ปัญหาความยากลำบากของบุคลากรในวงการศาสนา เพื่อให้บุคากรด้านนี้และประชาชนผู้นับถือศาสนาร่วมกันแบ่งปันผลสำเร็จจากการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกของจีน"