จับมือกันกลางกลิ่นอายสงคราม
 การเผยแพร่:2010-05-21 18:21:47   ดูความถี่:0 แหล่ง:CRI

การเจรจาเรื่องยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา รอบที่สองจะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 24 -25 พฤษภาคมนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เห็นว่า การค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาจะเป็นประเด็นสำคัญของการเจรจาในครั้งนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ สหรัฐอเมริกาคุมเข้มการตรวจสอบเกี่ยวกับการต่อต้านการทุ่มตลาดและตอบโต้การอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากจีน และใช้มาตรการผ่อนปรนทางการค้ากับจีนมากขึ้น ซึ่งเป็นที่จับตามองของหลายฝ่าย เจ้าหน้าที่และนักวิชาการสหรัฐอเมริกาเห็นว่า การปรึกษาหารือกันทางเศรษฐกิจและการค้าในกรอบการเจรจาเรื่องยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจครั้งนี้ อาจก่อให้เกิดกลิ่นอายสงคราม ถึงกระนั้นก็ตาม ความร่วมมือยังคงเป็นกระแสหลักของทั้งสองประเทศ

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาจะมาพร้อมกันที่กรุงปักกิ่ง เพื่อเข้าร่วมการเจรจาเรื่องยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา รอบที่สอง นายหวัง ฉีซาน ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจีน นายไต้ ปิ่งกั๋ว มนตรีแห่งชาติจีน ร่วมกับนางฮิลลารี่ คลินตัน ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโอบามา ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และนายทิม ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐอเมริกาจะเป็นประธานของการเจรจาในครั้งนี้ ฝ่ายจีนเผยว่า ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ อย่างเป็นแผนระยะยาวและในทุกมิติ ส่วนผู้เชี่ยวชาญสหรัฐอเมริการะบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนของเงินเหรินหมินปี้กับการค้าทวิภาคีจะเป็นประเด็นสำคัญของการเจรจาครั้งนี้

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายรอน เคิร์ค ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกากล่าวในงานสัมนา "สัปดาห์การค้าโลก" ที่หอการค้าสหรัฐอเมริกาจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันว่า "เรากำลังเผชิญกับงานท้าทายส่วนหนึ่ง ในวันสุดสัปดาห์นี้ เราจะออกเดินทางไปเข้าร่วมการเจรจาเรื่องยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจที่กรุงปักกิ่ง คณะผู้แทนของเรามีรัฐมนตรี 11 คน ในครั้งนี้ เราจะมีโอกาสเจรจาเรื่องกับฝ่ายจีนเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนตลอดจนงานท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่ ขณะเดียวกัน การเจรจาครั้งนี้จะเป็นเวทีสำหรับนายแกรี่ ล็อค รัฐมนตรีพาณิชย์และข้าพเจ้า ในการแก้ปัญหารูปธรรมที่เราสนใจร่วมกัน"

"ปัญหารูปธรรม" ของนายรอน เคิร์ค หมายถึงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาชิกสภาสหรัฐอเมริกาบางคนยกประเด็นปัญหาทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาขึ้นมาอีก และเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา สำนักงานผู้แทนทางการค้าสหรัฐอเมริกาได้ออกรายงานการสำรวจพิเศษหมายเลข 301ประจำปี 2010 โดยเปิดเผยสภาพการคุ้มครองสิทธิของทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้าของสหรัฐอเมริการวม 77 ประเทศ โดยจัดจีน รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ รวม 11 ประเทศเข้าไปในบัญชีรายชื่อที่จำเป็นต้องจับตาดูเป็นพิเศษ พร้อมกันนี้ สหรัฐอเมริกายังใช้มาตรการผ่อนปรนทางการค้าต่อผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังจีน นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เป็นต้นมา สมาชิกสภาและนักเศรษฐศาสตร์บางคนของสหรัฐอเมริกาถือการเกินดุลทางการค้าของจีนที่มีต่อสหรัฐอเมริกาเป็นข้ออ้าง โดยมุ่งที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนอีก สำหรับเรื่องนี้ นาย มิเชล เพตติส นักวิจัยระดับสูงของกองทุนสันติภาพนานาชาติคาร์เนกีคาดการณ์ว่า "ข้าพเจ้าเห็นว่า ความขัดแย้งทางการค้าของโลกจะมีมากขึ้น ก่อนที่บรรดาประเทศที่มีความสำคัญต่อระบบการค้าระหว่างประเทศจะบรรลุความเห็นอย่างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการแก้ความขัดแย้งทางการค้า สถานการณ์จะยังคงเลวร้ายลงไปอีก"

ถึงแม้ว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น แต่นักวิเคราะห์เห็นว่า ความร่วมมือยังคงเป็นกระแสหลักของทั้งสองประเทศ นายคาเมรอน เคอร์รี่ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐอเมริกา เคยกล่าวในช่วงที่เยือนกรุงปักกิ่งเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เขาหวังว่าจะสามารถส่งเสริมความร่วมมือกับจีนเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว

ก่อนที่จะนำคณะมาร่วมการเจรจาเรื่องยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา รอบที่สองนั้น นายแกรี่ ล็อค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐอเมริกากล่าวว่า "เราได้เคยติดต่อกับเจ้าหน้าที่จีนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว และได้ชี้แจงว่า ไม่ใช่การกระทำของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่สั่งให้ตรวจสอบคดีทางการค้าเหล่านี้ นโยบายนี้ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา แต่เป็นบางบริษัทนั่นเองที่ยื่นให้ตรวจสอบคดีเหล่านี้ ทั้งยังไม่ได้เจาะจงเฉพาะจีน ประเทศอื่นก็มีความขัดแย้งแบบนี้เช่นกัน เช่น แม็กซิโก ฝรั่งเศส อังกฤษ แคนาดา และญี่ปุ่น กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตรวจสอบก็ต่อเมื่อพวกเขายื่นคำร้องให้ดำเนินการ ข้าพเจ้าขอย้ำว่า ผลิตภัณฑ์ที่สหรัฐอเมริกานำเข้าจากจีนนั้นมีเพียงไม่ถึงร้อยละ 3 ที่อยู่ในคดีการตรวจสอบเพื่อต่อต้านการทุ่มตลาดและตอบโตการอุดหนุนเท่านั้น"
 

ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น