กรุงเทพฯ –วันที่ 30 พฤษภาคม 2556 บริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัดเซ็นสัญญาความร่วมมืออนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องบินประจำฝูงบินฯให้กับบริษัทไทยแอร์เอเชียจำกัด (TAA) ณ ห้องพินนาเคิล ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

นายองอาจ วรฉัตรธาร กรรมการผู้จัดการบริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้กับบริษัทไทยแอร์เอเชียจำกัด หรือ TAA ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย วงเงิน 2,100 ล้านบาท สำหรับการซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ320 รุ่นใหม่จำนวน 2 ลำ เพื่อเป็นการรองรับการขยายเที่ยวบินและการเพิ่มเส้นทางบินในอนาคต อีกทั้งเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่มีความต้องการใช้บริการมากขึ้น โดยมีปัจจัยเสริมมาจากการท่องเที่ยวและการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนที่ขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับแนวโน้มธุรกิจสายการบินราคาประหยัดในประเทศไทยเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยทางบริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัดเปิดเผยว่าบริษัทฯได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทไทยแอร์เอเชียจำกัด ในการบริหารสายการบินฯ โดยสะท้อนจากความนิยมของผู้โดยสารที่ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการเพิ่มเที่ยวบินพร้อมขยายเส้นทางการบินให้ครอบคลุมทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไทยแอร์เอเชียจำกัดกล่าวว่า บริษัทได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด ในการอนุมัติสินเชื่อภายใต้สัญญาเช่าการเงินสำหรับการซื้อเครื่องบินแอร์บัสเอ 320 รุ่นล่าสุดที่มีปลายปีกเครื่องบินแบบชาร์ทเลทซึ่งเป็นลำที่ 2 ของฝูงบินแอร์เอเชีย และถือเป็นเครื่องบินลำที่ 29 ของไทยแอร์เอเชีย เครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยได้มีพิธีรับมอบและให้บริการกับผู้โดยสารไปแล้ว การสนับสนุนสินเชื่อในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของไทยแอร์เอเชียและลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) ทั้งนี้ไทยแอร์เอเชียมีแผนที่จะทยอยรับเครื่องบินใหม่ประจำฝูงบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มเครือข่ายบินทั้งเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศ

อนึ่ง บริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย)จำกัดเป็นสมาชิกในกลุ่มของ ICBC ประเทศจีนที่มีประสบการณ์สูงในธุรกิจให้สินเชื่อลีสซิ่งในทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย)จำกัดในปี 2556 นี้ ทางบริษัทตั้งเป้าหมายการขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการมากขึ้นจึงมีแผนที่จะปรับสัดส่วนระหว่างกลุ่มลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์และลูกค้าผู้ประกอบการจากเดิม 85:15 เป็น 80:20 ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทสามารถอนุมัติสินเชื่อใหม่ให้กับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวประมาณร้อยละ 26 ของสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด และคาดว่าทิศทางการเติบโตจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ถึงแม้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลาดสินเชื่อกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการจะมีการแข่งขันสูงขึ้นโดยเฉพาะด้านราคา แต่บริษัทยังคงสามารถรักษาฐานลูกค้าดังกล่าวได้เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่พึงพอใจ ในขณะเดียวกัน หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.17