การค้าทวิภาคีจีน-อาเซียนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
 การเผยแพร่:2013-08-27 15:55:45   ดูความถี่:0 แหล่ง:cri

สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า จีนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับแรกของอาเซียนติดต่อกันมาเป็นเวลา 4 ปี ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 3 ของจีน และยังเป็นตลาดส่งออกสินค้าอันดับ 4 และแหล่งนำเข้าสินค้าใหญ่อันดับ 2 ของจีนด้วย

ครึ่งแรกปี 2013 ยอดมูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนเติบโตร้อยละ 8.6 โดยมูลค่าการค้าทวิภาคีจีน-อาเซียนสูงถึง 210,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่าอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยของการค้าต่างประเทศจีนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3.6

นายทาง จือหมิ่น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยจีน-อาเซียน สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (Panyapiwat Institute of Management)ของไทย วิเคราะห์ว่า มีสาเหตุ 4 ประการที่ทำให้การค้าทวิภาคีจีน-อาเซียนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว คือประการแรก หลังเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 ทั้งสองฝ่ายได้ลดกำแพงภาษีลง ยกระดับความร่วมมือทั้งด้านการขนส่งและโทรคมนาคมให้มากขึ้น

ประการที่ 2 ปัจจุบัน จีนอยู่ระหว่าง ย้ายฐานการผลิตสินค้าที่ส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐฯบางส่วนไปยังประเทศอาเซียน ทำให้รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจเดิม ซึ่งจีนผลิตแล้วส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐฯนั้นเปลี่ยนเป็นให้ประเทศอาเซียนเป็นผู้ผลิตสินค้าบางอย่างแทน แล้วส่งกลับมายังจีนเพื่อแปรรูปสินค้าเหล่านั้น ก่อนส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐ ทั้งนี้ทำให้ยอดมูลค่าการค้าทวิภาคีจีน-อาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ประการที่ 3 จีนต้องการวัตถุดิบจากประเทศในอาเซียนเพิ่มขึ้น เพราะเศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประการสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการนำเข้าสินค้าจากอีกฝ่ายหนึ่งมากขึ้น เนื่องจากได้พัฒนาและยกระดับทักษะและกระบวนการผลิตให้สูงขึ้น

ทั้งจีนและอาเซียนต่างมีความได้เปรียบในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และมีความแตกต่างทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ ทักษะการผลิต รวมทั้งโครงสร้างอุตสาหกรรม ด้วยสาเหตุเหล่านี้ การค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงมีส่วนเกื้อกูลกันอย่างมาก เช่น สิงคโปร์ และไทยต้องการบุกตลาดจีนมากขึ้น มาเลเซีย อินโดนีเซียต้องการมาลงทุนในจีนเพิ่มขึ้น กัมพูชา และลาวต้องการเงินทุน และเทคโนโลยีจากจีนอย่างต่อเนื่อง ส่วนจีนต้องการส่งออกสินค้าหลายประเภทไปยังตลาดอาเซียน เช่นผลิตผลการเกษตร ปุ๋ยเคมี สิ่งทอ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น เมื่อมองในภาพรวม การค้า การลงทุนระหว่างจีน-อาเซียนจะมีอนาคตที่แจ่มใส

นายสีว์ เกินหลัว ผู้จัดการบริษัทบุกเบิกพัฒนานิคมอุตสาหกรรมไทย-จีนในจังหวัดระยองแสดงความเห็นว่า ทั้งจีนและประเทศอาเซียนมีส่วนเกื้อกูลกันมากในการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้า เช่น ประเทศอาเซียนเป็นแหล่งผลิตผลไม้และยางพารา ส่วนจีนต้องการนำเข้าผลไม้และยางพาราจำนวนมหาศาล บริษัทจีนพากันไปลงทุนในประเทศอาเซียน อีกทั้งย้ายฐานการผลิตอุปกรณ์บางอย่างไปผลิตในประเทศอาเซียนได้โดยตรง แทนที่จะส่งออกไปจากจีนเหมือนในอดีต

(NUNE/cai)

 

 

ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น