สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า วันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ พลเอก ฉาง ว่านฉวน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมจีนร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจาครั้งที่ 3 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐมนตรีกลาโหมจากประเทศอาเซียน และประเทศคู่เจรจาอาเซียนในประเด็นการป้องกันประเทศและ ความมั่นคงทั้งระดับโลก และระดับภูมิภาค

พลเอก ฉาง ว่านฉวน กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมว่า สถานการณ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในขณะนี้มีทั้ง โอกาสและการท้าทาย จีนริเริ่มให้ใช้แนวความคิดใหม่ด้านความมั่นคง คือให้ร่วมมือกัน คำนึงถึงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และใช้นโยบายด้านความมั่นคงที่สามารถปฏิบัติได้อย่างยั่งยืน จีนเสนอให้กระชับความร่วมมือความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อได้ประโยชน์และได้ชัยชนะร่วมกัน จีนสนับสนุนให้กลไกการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจาแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ สนับสนุนการสร้างกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคงที่เปิดกว้าง ยอมรับกัน มีความโปร่งใส และเสมอภาคเท่าเทียมกัน จีนยินดีที่จะกระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ลงลึกความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อร่วมกันพิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ จีนมีข้อคิดเห็นให้ประเทศที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขข้อพิพาทอย่าง เหมาะสม ควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น สร้างบรรยากาศที่ดี เพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

พลเอก ฉาง ว่านฉวน ยังกล่าวว่า จีนคัดค้านสหรัฐฯส่งเรือรบเข้าไปในน่านน้ำใกล้เกาะบางแห่งในบริเวณหมู่เกาะหนานซาในทะเลจีนใต้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจีน อีกทั้งเร่งสหรัฐฯให้เคารพอธิปไตยของจีน ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับการเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจ การรักษาสันติภาพ เสถียรภาพในภูมิภาคนี้ให้มากขึ้น

ต่อประเด็นเสรีภาพการเดินเรือที่บางประเทศเน้นในที่ประชุม

พลเอก ฉาง ว่านฉวน กล่าวว่า ก่อนอื่น ปัจจุบัน เสรีภาพการเดินเรือในทะเลจีนใต้ไม่เป็นปัญหา เรือที่เดินทางผ่านทะเลจีนใต้มีจำนวนไม่ต่ำกว่าปีละ 1 แสนลำ ยังไม่เคยมีเรือของประเทศใดเจออุปสรรค ความยุ่งยาก หรืออันตรายระหว่างเดินทางผ่านทะเลจีนใต้ สรุปได้ว่า ข้อเท็จจริงก็คือ เสรีภาพการเดินเรือในทะเลจีนใต้ไม่มีปัญหาใด ๆเลย ประการที่สอง เสรีภาพการเดินเรือในทะเลจีนใต้ไม่ควรกลายเป็นประเด็นปัญหาที่ถูกนำมาพูดคุยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งไม่ควรถูกนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อท้าทายจีน เพราะเสรีภาพการเดินเรือในทะเลจีนใต้ไม่มีปัญหา ประการที่สาม จีนปฏิบัติตามแนวความคิดการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ ประเทศรอบข้างที่เสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คือ เป็นมิตรกัน มีความจริงใจต่อกัน เอื้อประโยชน์แก่กัน และยอมรับกัน จีนมุ่งพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศรอบข้าง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และมีชะตาร่วม ทะเลจีนใต้เป็นช่องทางสำคัญทางการค้า และเส้นทางนำเข้าพลังงานสำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จีนไม่เพียงแต่ไม่สร้างอุปสรรคต่อเสรีภาพการเดินเรือในทะเลจีนใต้เท่านั้น หากยังได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่การเดินเรือในทะเลจีนใต้ด้วย