สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า วันที่ 1 ธันวาคมนี้ เวลาประมาณ 22.06 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยได้นำเสนอในโอกาสที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายวีระ ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฏีกา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลเชิญองค์รัชทายาท เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 สืบราชสันตติวงศ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงตอบรับขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10
หลังจากนั้น มีการประกาศแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี เรื่องการขึ้นทรงราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ความว่า :
รัฐบาลขอประกาศให้ประชาชนชาวไทยทั้งที่อยู่ในราชอาณาจักร และในต่างประเทศทั่วโลกทราบทั่วกันว่า บัดนี้ประเทศไทยมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว ตามคำกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้นทรงราชย์ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นายกรัฐมนตรี และประธานศาลฎีกา ร่วมเป็นสักขีในพิธีประวัติศาสตร์นี้ และทรงพระกรุณารับคำกราบบังคมทูลอัญเชิญ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ และโบราณราชประเพณีทุกประการ ทั้งสนองพระราชดำริสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่พระราชทานไว้ตั้งแต่แรกว่าในระหว่างที่พระองค์เองและประชาชนกำลังทุกข์โศกอย่างใหญ่หลวงจากการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ยังไม่ควรดำเนินการเรื่องการสืบราชสมบัติทันทีในขณะนั้น หากแต่ควรรอจนการบำเพ็ญพระราชกุศลและการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าไปถวายบังคมพระบรมศพผ่านพ้นไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งบัดนี้ถึงเวลาการบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวารคือครบ ๕๐ วัน และประชาชนได้มีโอกาสเข้าถวายบังคมพระบรมศพแล้วนับล้านคน จึงขอพระราชทานพระราชานุญาตดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
อนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามโบราณราชประเพณี โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งยังสอดคล้องกับคตินิยมในนานาประเทศที่ว่า ราชอาณาจักรย่อมไม่ว่างเว้นขาดตอนจากการมีพระมหากษัตริย์ ดังนั้นการเริ่มรัชกาลใหม่จึงมีผลต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นต้นไป
ณ บัดนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามกุฎราชกุมาร ซึ่งทรงสถิตอยู่ในพระราชสถานะองค์พระรัชทายาทมาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๑๕ นับเป็นเวลาถึง ๔๔ ปี จึงทรงเป็น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ส่วนการจะดำเนินการต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามโบราณราชขัตติยประเพณีที่เรียกว่า "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก" นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัย ซึ่งมีพระราชดำริแล้วว่าควรดำเนินการเมื่อเสร็จสิ้นการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศแล้ว
- อาเซียนสร้างโอกาสสู่วิสาหกิจจีน
- จีนเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ที่บาหลีใช้งาน G20
- Peace Ark เรือพยาบาลภารกิจสันติภาพ กองทัพเรือจีนเดินทางถึงกรุงจาการ์ตา
- สมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชาติดโควิดยกเลิกร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20
- บทวิเคราะห์:งานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียนหนุนเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนก้าวขึ้นไปอีกขั้น
- บทวิเคราะห์: เหตุใดผู้ร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน มีความประสงค์กลับมาร่วมงานในอีกปีหน้า?
- มหกรรมจีน-อาเซียน ครั้งที่ 19 แสดงผลงานดีเด่นด้านความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- “โซนเมืองพี่เมืองน้องกว่างซี” เปิดตัวครั้งแรกในงาน CAEXPO ครั้งที่ 19
- งานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่ 19 ได้รับยอดการลงทุนจากโครงการที่เซ็นสัญญาแล้วถึง 4 แสนล้านหยวน
- เขตกว่างซีจัดฟอรั่มเพื่อความร่วมมือด้านสื่อมวลชน “หุ้นส่วนอาเซียน”
วิดีโอยอดนิยม
ช่องแนะนำ
ด้านบน คิดเห็น
- ภารกิจการขนส่งมนุษย์ของสถานีอวกาศของจีนสร้างสถิติอย่างต่อเนื่อง
- แถลงการณ์คณะกรรมการจัดงานพิธีศพสหายเจียงเจ๋อหมิน ฉบับที่ 2
- ทั่วประเทศจีนไว้อาลัยการจากไปของสหายเจียงเจ๋อหมิน
- จีนคงความสามารถด้านโลจิสติกส์
- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดพิธีไว้อาลัยการถึงแก่อสัญกรรมของเจียงเจ๋อหมิน
- เมืองและพื้นที่ 36 แห่งของจีนริเริ่มระบบบำนาญส่วนบุคคล
- FAW Toyota ผลิตรถยนต์คันที่ 10 ล้านในเทียนจิน
- ผู้นำและหัวหน้าองค์กรระหว่างประเทศต่างๆร่วมแสดงความเสียใจการถึงแก่อสัญกรรมของเจียงเจ๋อหมิน
- รองนายกฯ จีนเน้น ปรับปรุงมาตรการป้องกันควบคุมโรคระบาดให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ผลไม้อาเซียนได้รับความนิยมในประเทศจีน