เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางไปตรวจงานที่มณฑลเจ้อเจียง นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยต่างเห็นว่า การที่นายสี จิ้นผิง เลือกลงพื้นที่มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นเขตที่เศรษฐกิจภาคเอกชนพัฒนาคึกคักมากที่สุดในจีนนั้น ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า การป้องกันและควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด ต้องรีบดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูการผลิตและการใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบ เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างเป็นปกติโดยเร็ว

ระหว่างลงพื้นที่ตรวจงานครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า โควิด-19  ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและวงการต่าง ๆ ระดับหนึ่ง เขาเน้นว่า คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้คำนึงถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นพิเศษ โดยประกาศใช้มาตรการบางอย่างเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือวิสาหกิจเหล่านี้ให้ผ่านพ้นความยากลำบาก และจะมีการปรับปรุงอย่างทันกาลตามการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มสถานการณ์ด้วย

ภายใต้สถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังระบาดทั่วโลก วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกำลังเร่งผลิตสิ่งของจำเป็นแก่ทั่วโลก เฉพาะฉะนั้นขอเพียงวิสาหกิจเหล่านี้มีความมั่นคง เศรษฐกิจจีนก็จะมีความมั่นคง  การป้องกันโควิด-19 และการพัฒนาเศรษฐกิจโลกจึงจะมีหลักประกันมากขึ้น

นายสี จิ้นผิง วิเคราะห์สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันว่า เป็นทั้งความท้าทายใหม่ต่อเศรษฐกิจจีนและเป็นโอกาสใหม่ในการเร่งพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนผลักดันการปรับปรุงและยกระดับอุตสาหกรรมของจีนไปในเวลาเดียวกัน

การตรวจงานที่มณฑลเจ้อเจียงของนายสี จิ้นผิง แสดงให้เห็นว่า จีนมีการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ดีขึ้นเรื่อย ๆ เศรษฐกิจจีนที่หยุดชะงักไปนั้นกำลังเร่งการฟื้นฟู ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมให้ชาวจีนใช้ความพยายามต่อไป เพื่อผ่านพ้นความยากลำบากและต้อนรับการพัฒนาที่ดีขึ้นเท่านั้น หากยังเพิ่มความมั่นคงต่อเศรษฐกิจโลกด้วย (Tim/Ldan/Zhou)