ผู้นำจีน-อินโดนีเซียแลกเปลี่ยนสารแสดงความยินดี 70 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต
 การเผยแพร่:2020-04-14 16:42:34   ดูความถี่:0 แหล่ง:CRI

วันที่ 13 เม.ย. นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แลกเปลี่ยนสารแสดงความยินดีกับ นายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-อินโดนีเซีย  

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุในสารว่า การไปมาหาสู่กันฉันมิตรระหว่างจีน-อินโดนีเซียมีมาช้านาน ช่วง 70 ปีนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีพัฒนาไปอย่างมาก โดยเฉพาะในปีหลัง ๆ นี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือขยายขอบเขตกว้างออกไปเรื่อย ๆ และการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ร่วมกันประสบความสำเร็จที่เป็นที่น่าพอใจ

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีการประสานงานกันด้วยดีในกิจการระหว่างประเทศและภูมิภาค ซึ่งถือเป็นประโยชน์แก่ประชาชนสองประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างคุณูปการสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพส่วนภูมิภาคและทั่วโลก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวด้วยว่า  จีน-อินโดนีเซียมีผลประโยชน์ร่วมกันกว้างขวาง ทั้งด้านทวิภาคี พหุภาคี และภูมิภาค ความร่วมมือระหว่างกันจึงมีศักยภาพมหาศาล ทั้งนี้ จีนยินดีร่วมแรงร่วมใจกับอินโดนีเซียต่อไปเพื่อเอาชนะโควิด-19 ข้าพเจ้าให้ความสำคัญระดับสูงต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อินโดนีเซีย อีกทั้งยังยินดีที่จะใช้ความพยายามร่วมกับประธานาธิบดีโจโค วิโดโด เพื่อให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-อินโดนีเซีย มีเนื้อหาที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตลอดจนเติมพลังการขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาของภูมิภาค

ด้านประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ระบุในสารแสดงความยินดีว่า  อินโดนีเซียและจีนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีวัฒนธรรมที่ผูกพันกัน  ผู้นำและวงการต่าง ๆ ทางสังคมของสองประเทศ มีการไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิดมาก ทำให้มิตรภาพระหว่างกันมีความแข็งแกร่ง การพัฒนาความสัมพันธ์ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนับวันยิ่งสมบูรณ์ขึ้น ถือเป็นความสำเร็จทางยุทธศาสตร์อันโดดเด่นของทั้งสองประเทศ สองฝ่ายได้สร้างโอกาสความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการนำความสุขมาสู่ประชาชนของสองประเทศ จึงเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของทั้งสองฝ่าย ภายใต้กรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน สองประเทศได้ยึดมั่นในเจตนารมณ์แห่งความร่วมมือ ทั้งนี้ ย่อมจะช่วยผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันพัฒนาต่อไป และมีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างคุณูปการแก่สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค (tim/cai)


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น