การแพทย์แผนจีนมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาโควิด-19
 การเผยแพร่:2020-04-16 16:21:03   ดูความถี่:0 แหล่ง:CRI

\

การระบาดของโควิด-19ในจีน มีระยะเวลาฟักตัวยาวนาน    และมีการแพร่ระบาดที่รุนแรง  จนถึงขณะนี้ยังไม่มียาต้านหรือวัคซีนในการรักษาโรคนี้   แต่สิ่งหนึ่งซึ่งสามารถพิสูจน์จากการต่อสู้กับไวรัสในครั้งนี้   คือการแพทย์แผนจีนมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาโควิด-19

จากข้อมูลล่าสุดหลังผู้ป่วยที่มีไข้จำนวน 351 คนได้รับยาต้มสมุนไพรจีนชื่อว่า “ชิงเฟ่ยไผตู๋ทัง” ที่สำนักบริหารจัดการการแพทย์แผนโบราณแห่งชาติจีนแนะนำเป็นเวลา 1วัน    อุณหภูมิในร่างกายของผู้ป่วย 51.8%กลับสู่ระดับปกติ    และอุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วย 94.6% กลับสู่ระดับปกติหลังรับยา 6 วัน   นอกจากนี้อาการไอของผู้ป่วย 46.7% หายดีหลังรับยา 1 วัน  อาการไอของผู้ป่วย 80.6% หายดีหลังรับยา 6 วัน

สาเหตุใดที่การแพทย์แผนจีนมีประสิทธิภาพสูง ในขณะที่แพทย์แผนปัจจุบันยังไม่มียารักษาโควิด- 19 คือการแพทย์แผนจีนได้รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับการต่อสู้กับโรคระบาดมาเป็นระยะเวลากว่า 2,000 ปีแล้ว     ยาต้มสมุนไพรจีน “ชิงเฟ่ยไผตู๋ทัง” ที่ใช้ในการรักษาโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรน่าในครั้งนี้มีการบันทึกไว้ในตำราแพทย์แผนจีนชื่อว่า "ซังหานลุ่น" เมื่อศตวรรษที่ 3  

การแพทย์แผนจีนเรียกชื่อโรคระบาดว่า “อี้ปิ้ง”  เมื่อสมัยจั้นกว๋อ (ปี475-221 ก่อนคริสต์ศักราช ) มีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาดในหนังสือประวัติศาสตร์จีน    “หวงตี้เน่ยจิง”  ตำราแพทย์แผนจีนฉบับแรกในประวัติศาสตร์ของจีนมีการบันทึกโรคระบาดที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ  เมื่อ ค.ศ.300 “โจ่วโฮ่วเป้ยจี๋ฟาง”  ตำราแพทย์แผนจีนเกี่ยวกับการรักษาโรคระบาดเฉียบพลัน มีการบันทึกรายการยาสมุนไพรในการรักษาโรคระบาด และวิธีการรักษา โดยให้นำผงยาสมุนไพรใส่เข้าไปในจมูกผู้ป่วย    เมื่อสมัยราชวงศ์ซ่งในศตวรรษที่ 11   การแพทย์แผนจีนเริ่มใช้ “เหรินโต้ว”ในการป้องกันโรคฝีดาษ โดยนำผงสะเก็ดแผลของผู้ป่วยโรคฝีดาษที่หายดีแล้ว ใส่เข้าไปในจมูกของเด็ก   เมื่อศตวรรษ 13  การแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคที่ยุโรปได้คร่าชีวิตคนจำนวนมาก    ขณะที่หนังสือประวัติศาสตร์จีนบันทึกไว้ว่า    จีนเคยมีการระบาดของอหิวาตกโรคหลายครั้งเช่นกัน  แต่มีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่มาก    เพราะการแพทย์แผนจีนมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาโรคระบาด   เมื่อ ค.ศ.1894 มีการระบาดของอหิวาตกโรคในฮ่องกง  แพทย์แผนจีนในฮ่องกงได้บันทึกวิธีการรักษาผู้ป่วยไว้ในตำราแพทย์แผนจีน “วิธีการรักษาอหิวาตกโรค”  และได้รับผลการรักษาที่น่าพอใจ

\

จากการต่อสู้กับโรคระบาดในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา  แพทย์แผนจีนได้รวบรวมองค์ความรู้มากมายเกี่ยวกับการรักษาโรคระบาด และได้สร้างทฤษฎีที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง    ตำราแพทย์แผนจีน “เวินอี้ลุ่น” ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า   วิชาเกี่ยวกับโรคระบาดของแพทย์แผนจีนได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ   ตำราแพทย์เล่มนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ว่า   โรคระบาดเกิดจาก “เสียชี่” หรือลมด้านลบ  เมื่อปลายสมัยราชวงศ์ชิง  “อู๋ จีว์ทง” หมอแผนจีนที่มีชื่อเสียงในการรักษาโรคระบาด ได้ต่อยอดองค์ความรู้ด้านนี้ โดยเขียนตำราแพทย์ “เวินปิ้งเถียวเปี้ยน” (ค.ศ.1813 ) ตำราแพทย์เล่มนี้มีเนื้อหาครอบคลุมทุกด้านในการรักษาโรคระบาดทางคลินิก ซึ่งถือเป็นสมบัติทางการแพทย์แผนจีนอันล้ำค่า ยาแพทย์แผนจีน “อันกงหนิวหวางหวัน” ที่บันทึกไว้ในตำราแพทย์แผนจีนดังกล่าวมีสรรพคุณในการรักษาโรคระบาดและโรคที่มีอาการรุนแรงและเฉียบพลัน   เช่น  โรคไข้สมองอักเสบ, ไข้เลือดออก,  โรคมือเท้าปาก, โรคซาร์ส, โรคไข้หวัดนก  และในการต้านการระบาดของโควิด-19  ในครั้งนี้   ยาจีน “อันกงหนิวหวางหวัน” ได้รับการบันทึกไว้ในแผนการวินิจฉัยและรักษาโควิด-19 ที่ร่างขึ้นโดยสำนักบริการจัดการแพทย์แผนโบราณแห่งชาติจีน   เพื่อนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหนัก มีไข้สูง และหมดสติ  ตัวยานี้มีสรรพคุณแก้ร้อนใน ขจัดพิษ และทำให้รู้สึกตัว    จึงถือเป็นยาวิเศษ 1ใน 3 ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีไข้สูง หรือหมดสติ   จากผลการวิจัยในยุคปัจจุบัน   ตัวยานี้สามารถขยายเวลาการมีชีวิตของเซลล์สมองภายใต้สภาพที่ขาดแคลนออกซิเจน   ทำให้มีเวลาช่วยชีวิตผู้ป่วยมากขึ้น    

การแพทย์แผนจีนรักษาโรคไข้หวัดได้ในสองด้าน   ด้านหนึ่ง  จะขจัดปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค  ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะไปฆ่าเชื้อไวรัสเพียงอย่างเดียว   แต่หมายถึงจะปรับภาวะสุขภาพให้ดีขึ้น หลังร่างกายได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก แล้วมีอาการต่างๆ   เช่น มีไข้   หิวน้ำ  มีเสมหะสีเหลือง     ตามทฤษฎีของแพทย์แผนจีน อาการเหล่านี้เกิดจาก “ความร้อน”  จึงต้องรักษาด้วยวิธีการขจัดความร้อนออกจากร่างกาย    แต่ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่น  มีน้ำมูก   ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ   ตามทฤษฎีการแพทย์แผนจีน  จะต้องรักษาด้วยวิธีการขจัดความเย็นออกจากร่างกาย  

นอกจากการกำจัดปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคแล้ว  การแพทย์แผนจีนยังเน้นการเพิ่มเติมพลังด้านบวกแก่ร่างกาย   เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง  ตำราการแพทย์แผนจีน “หวงตี้เน่ยจิง” มีการบันทึกไว้ว่า   ถ้าหากมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง  ปัจจัยด้านลบจากภายนอกก็ไม่สามารถทำให้ป่วยได้  เปรียบได้กับสถานการณ์ในปัจจุบันสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับมือกับโควิด-19 คือ ภูมิคุ้มกันของตนเอง     ดังนั้นแพทย์แผนจีนจะให้ผู้ป่วยรับยาต้ม “ชิงเฟ่ยไผตู๋ทัง” เพื่อขจัดความร้อนและแก้พิษในร่างกาย  ซึ่งถือเป็นการกำจัดปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค  อีกด้านหนึ่งก็ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ฝังเข็ม นวด  และรำมวยออกกำลังกาย  “ปาต้วนจิ่น”        

มวย “ปาต้วนจิ่น” เริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง   และแพร่หลายในหมู่ประชาชนจำนวนมาก   การรำมวยดังกล่าวสามารถช่วยให้อวัยวะต่างๆ และภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น  จึงเป็นเหตุให้หน่วยงานสาธารณสุขของจีนบันทึกมวย “ปาต้วนจิ่น” ไว้ในแผนการรักษาโควิด-19 และได้รณรงค์ให้ประชาชนหมั่นรำมวย “ปาต้วนจิ่น” เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

ดังนั้นเมื่อมีการระบาดของโควิด-19  การแพทย์แผนจีนจะรักษาผู้ป่วยตามแนวความคิดการขจัดปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคและ เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น  รวมทั้งสร้างความสมดุลแก่ภาวะสุขภาพ   ซึ่งผลการรักษาอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างมาก

ปัจจุบันการแพทย์แผนจีนยังคงมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคชนิดต่างๆ เช่น  โรคซาร์ส  โควิด-19  และมีการนำสมุนไพร “ชิงเฮา”  ไปใช้ในการรักษาโรคมาลาเรีย  จีนภูมิใจในภูมิปัญญาด้านการแพทย์ของบรรพบุรุษ  และเชื่อมั่นว่าจะสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ จากการผสมผสานการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนปัจจุบัน  


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น