วันที่ 26 ส.ค. 2020 ตรงกับวันครบรอบ 40 ปีแห่งการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เซินเจิ้นพัฒนาจากอำเภอทำการเกษตรที่ล้าหลังเขตชายแดนทางใต้ของจีน ขึ้นเป็นมหานครที่มีนวัตกรรมสากลที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งหนึ่ง ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้นจากไม่ถึง 200 ล้านหยวน เป็น 2.7 ล้านล้านหยวน นิตยสาร The Economist ของอังกฤษได้วิจารณ์ถึงว่า ทั่วโลกมีเขตเศรษฐกิจพิเศษจำนวนมากกว่า  4,000 แห่งด้วยกัน แต่แบบอย่างที่สำเร็จที่สุดต้องเป็น “สิ่งมหัศจรรย์เซินเจิ้น” เซินเจิ้นในฐานะ “หน้าต่าง” ของการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน อาศัยอะไร จึงสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์การพัฒนาที่น่าตะลึงนี้ได้

ในระหว่างกระบวนการพัฒนาของเซินเจิ้น นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นกำลังขับเคลื่อนหลักมาโดยตลอด เมื่อปี 2000 เซินเจิ้นเริ่มปรับปรุงตัวเองจากการแปรรูปและการค้าไปยังธุรกิจไฮเทค ปี 2008-2009 เซินเจิ้นเริ่มส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ซึ่งเป็นมาตรการเชิงยุทธศาสตร์ ปี 2013 เริ่มฟูมฟักอุตสาหกรรมแห่งอนาคตชนิดต่างๆ เช่น สุขภาพ อุปกรณ์สวมพกติดตัวเป็นต้น ปัจจุบัน เซินเจิ้นได้ก่อสร้างสถานีฐาน 5G จำนวนกว่า 46,000 แห่ง ซึ่งสามารถให้บริการ 5G ครอบคลุมทั้งเมืองด้วยเครือข่ายอิสระ นับเป็นเมือง 5G แห่งแรกของโลกก็ว่าได้

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เซินเจิ้นขยายความเหนือกว่าของเขตพิเศษ ใช้ความพยายามในการสร้างสรรค์บรรยากาศประกอบธุรกิจแบบตลาด มีระบบกฎหมาย และแบบสากล เพิ่มศักยภาพการพัฒนาให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโอบกอดโลกด้วยความใจกว้าง มอบโอกาสการพัฒนาให้กับทั่วโลก ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมา เซินเจิ้นได้ครองความเป็นอันดับหนึ่งของจีนด้านยอดมูลค่าการค้าต่างประเทศ

ปัจจุบัน เซินเจิ้นกำลังพยายามสร้างสรรค์เขตสาธิตสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน ซึ่งเป็นการทดลองผลักดันการปฏิรูปจากจุดเริ่มต้นที่สูงขึ้น มีฐานะและเป้าหมายที่สูงขึ้น ขณะที่สถานการณ์โลกมีความสลับซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยที่ไม่มั่นคงและไม่แน่นอนนับวันมากยิ่งขึ้น เซินเจิ้นที่มียีนแห่งความรวดเร็ว การนวัตกรรมและเปิดกว้างนั้น จะยืนหยัดหลักการที่ “จีนปฏิรูปอย่างไม่หยุดยั้ง เปิดประเทศอย่างไม่มีวันจบ” ด้วยการปฏิบัติที่แท้จริง สร้างสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ด้านการพัฒนาที่มากยิ่งขึ้น และนำโอกาสการพัฒนาสู่ทั่วโลกนับวันมากยิ่งขึ้น (Dan/Yim)