70 ปีแห่งการพัฒนาเปลี่ยนแปลงด้านการรักษาพยาบาลของเขตทิเบต
 การเผยแพร่:2021-08-09 15:58:43   ดูความถี่:0 แหล่ง:CMG

ปีนี้ครบรอบ 70 ปีที่เขตทิเบตได้รับการปลดปล่อยอย่างสันติ  เมื่อ 70 ปีก่อน  เขตทิเบตมีสถานให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนขนาดเล็กที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ง่ายๆเพียง 3 แห่ง  และมีคลินิกเอกชนจำนวนน้อย

แต่ตลอด 70 ปีมานี้  เขตทิเบตได้รับการพัฒนาและจัดตั้งระบบดูแลรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นมาก  ซึ่งประกอบด้วยระบบการรักษาพยาบาล ระบบดูแลรักษาสุขภาพของสตรีและเด็ก  ระบบป้องกันและควบคุมโรค การแพทย์และยาสมุนไพรของเขตทิเบต  เป็นต้น  การรักษาพยาบาลของเขตทิเบตได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง

เมืองน่าฉี่ว์ ทางเหนือของที่ราบสูงทิเบต เคยเป็นพื้นที่ที่ระบบการรักษาพยาบาลค่อนข้างอ่อนแอ  เมื่อเร็วๆนี้  ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน(ซีเอ็มจี)ได้เดินทางไปทำข่าวที่เมืองน่าฉี่ว์ และเห็นถึงการพัฒนาเปลี่ยนแปลงด้านการรักษาพยาบาลของที่นั่น

สถานพยาบาลประจำตำบลเซ่อชิ่ง  อำเภอเนี่ยหรง  เมืองน่าฉี่ว์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4,800 เมตร  ตอนที่ผู้สื่อข่าวไปถึง ที่นี่กำลังจัดการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กจากหมู่บ้านซานชุน

นางรื่อจู มีลูก 2 คน คุณหมอชื่อเหรินจี๋ ของสถานพยาบาลแห่งนี้เป็นผู้ทำคลอดบุตรทั้งสองของเธอ  ด้วยเหตุนี้  ทุกครั้งที่ได้พบคุณหมอชื่อเหรินจี๋  นางรื่อจูจะรู้สึกเหมือนได้พบสมาชิกครอบครัว

\

ปีนี้  คุณหมอชื่อเหรินจี๋อายุ 48 ปี  เธอทำงานในคลินิกแห่งนี้มาเป็นเวลา 24 ปีแล้ว  เธอบอกว่า  ตอนที่คลินิกแห่งนี้ตั้งขึ้นใหม่เมื่อช่วงทศวรรษ 1980  มีแพทย์เพียง 4 คน พวกเขาไม่สามารถรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหนักหรือตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน  บวกกับการคมนาคมในเวลานั้นไม่สะดวก  ผู้ป่วยดังกล่าวไม่สามารถไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ห่างไกลได้

เวลานั้น  พี่สาว 2 คนของคุณหมอชื่อเหรินจี๋ต่างเสียชีวิตไปเนื่องจากการคลอดบุตร  ด้วยเหตุนี้  เมื่อเธอได้เป็นแพทย์แล้ว  ความปรารถนาของเธอคือ  ช่วยให้สตรีที่มีครรภ์ในเขตปศุสัตว์สามารถคลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย

หลายปีมานี้  เขตทิเบตได้ใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการตั้งระบบการรักษาพยาบาลความร่วมมือระหว่างอำเภอกับตำบลต่างๆ   และการตระเวนให้การบริการรักษาพยาบาล เป็นต้น เพื่อผลักดันให้พื้นที่ต่างๆของเขตทิเบตสามารถเข้าถึงทรัพยากรการรักษาพยาบาลคุณภาพดี  ปัจจุบันความปรารถนาของคุณหมอชื่อเหรินจี๋กำลังประจักษ์เป็นจริงขึ้น

ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา  พร้อมกับการจัดทีมบุคลากรการแพทย์ช่วยเหลือเขตทิเบต  และการจับคู่ช่วยเหลือระหว่างโรงพยาบาลพื้นที่พัฒนาแล้วกับโรงพยาบาลท้องถิ่นของเขตทิเบต   ให้โรงพยาบาลที่มีการพัฒนาก้าวหน้ากว่ารับหน้าที่ช่วยพัฒนาแผนกต่างๆในโรงพยาบาลเขตทิเบต  เช่น แผนกโรคหัวใจและหลอดเลือด แผนกสูตินรีเวช  และแผนกกุมารเวช

ด้วยการชี้นำของคณะผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางไปช่วยเหลือเขตทิเบต  คุณหมอชื่อเหรินจี๋ได้เรียนรู้การใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยต่างๆ เช่น เครื่องตรวจอัลตร้าซาวน์บีสแกน และให้ความสำคัญในการตรวจสตรีมีครรภ์  เพื่อประกันสุขภาพและความปลอดภัยของแม่ลูกตั้งแต่ต้น

การจัดกลุ่มบุคลากรการแพทย์จากเมืองใหญ่ไปให้ความรู้คำแนะนำและการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางในการจัดสรรงบพัฒนาการรักษาพยาบาลเหล่านี้  ทำให้การรักษาพยาบาลของเขตทิเบตได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ปัจจุบัน  สถานพยาบาลประจำตำบลเซ่อชิ่งมีแพทย์และพยาบาลจำนวน 10 คน  เมื่อปี 2020 จำนวนเตียงผู้ป่วยของที่นี่ได้เพิ่มขึ้นอีก 7 เตียง นอกจากนี้ มีการปรับปรุงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ผู้ป่วยต่อเนื่องด้วย

นางชื่อเหรินไป๋หม่า  ผู้อำนวยการสถานพยาบาลประจำตำบลเซ่อชิ่ง อำเภอเนี่ยหรง  เมืองน่าฉี่ว์ ระบุว่า  สถานพยาบาลของเราผสมผสานการแพทย์แผนทิเบตกับแผนตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน  โดยมีห้องตรวจอัลตร้าซาวด์  ห้องให้น้ำเกลือ  ห้องฉีดวัคซีน และห้องคอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนต่างๆพร้อมแล้ว เมื่อก่อนที่ยังไม่มีนั้น สตรีที่มีครรภ์ต้องเดินทางไปสแกนที่โรงพยาบาลระดับอำเภอเท่านั้น

ตอนนี้  สถานพยาบาลประจำตำบลเราพัฒนาขึ้น  การบริการต่าง ๆ ของเราก็ดีขึ้น ที่นี่ยังมีรถปฐมพยาบาลและรถพยาบาลเคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อคุณหมอไปให้การรักษาพยาบาลตามหมู่บ้านต่างๆ   และให้ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

\

ชาวบ้านคนหนึ่งจากตำบลเซ่อชิ่งเล่าว่า  ปัจจุบัน อุ่นใจขึ้นมาก เพราะสถานพยาบาลมีแพทย์อยู่เวรตลอด 24 ชั่วโมง มีหมอรักษาพยาบาลทุกเมื่อ  ซึ่งต่างกับเมื่อก่อนมาก

นางหนีหม่าเต๋อจี๋ ผู้ช่วยนายอำเภอเนี่ยหรง เมืองน่าฉี่ว์ ระบุว่า  อำเภอเรามี 10 ตำบล 10 สถานพยาบาล ซึ่งในภาพรวมแล้วต่างมีแผนกสำคัญครบ  ยาและเครื่องอุปกรณ์ต่างก็ได้มาตรฐาน  นอกจากนี้  สถานพยาบาลเหล่านี้ยังสามารถรักษาโรคเรื้อรังต่างๆได้อีกด้วย

ปัจจุบัน ทุกตำบลของเขตทิเบตต่างมีสถานพยาบาลประจำ  แต่ละแห่งมีเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลเฉลี่ย 7 คน  นอกจากนี้  มีหมู่บ้านจำนวน 5,277 แห่งมีสถานีอนามัย  โดยได้บรรลุเป้าหมายรักษาโรคอาการเบาภายในตำบลได้  เครือข่ายการรักษาพยาบาลได้ครอบคลุมทั้งชนบทและเมืองต่างๆของเขตทิเบต

\

ด้วยเหตุนี้  สุขภาพของประชาชนบนที่ราบสูงได้รับการยกระดับสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  อายุเฉลี่ยของชาวทิเบตได้เพิ่มจาก 35.5 ปีเมื่อค.ศ. 1951 มาเป็น 71.1 ปีในค.ศ. 2019  โรงพยาบาลในเขตทิเบตสามารถรักษาโรคได้กว่า 400 อย่าง สำหรับโรคพยาธิไฮดาติด(hydatid), โรคกระดูกและข้อเจริญเติบโตผิดปกติ(Kaschin-Beck), โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด   และโรคต้อกระจก ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยในเขตทิเบตในอดีตถูกขจัดหรือป้องกันได้แล้วในปัจจุบัน(Yim/Zhou/Lu)


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น