ปัจจุบันจีนพัฒนาเป็นประเทศขนส่งทางเรือที่มีอิทธิพลสำคัญของโลกแห่งหนึ่ง ในบรรดาท่าเรือที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าและจำนวนตู้คอนเทนเนอร์มากที่สุดบนโลก จีนครองอันดับ 8 และ 7 จาก 10 อันดับท่าเรือของโลก ขณะเดียวกันการขนส่งทางเรือกำลังก้าวสู่ความเป็น “อัจฉริยะและสีเขียว” อันมีส่วนช่วยต่อการอนุรักษ์พลังงาน การลดการปล่อยมลพิษ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปริมาณการขนส่งสินค้าของท่าเรือโจวซาน เมืองหนิงโป ครองอันดับแรกของโลกในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาติดต่อกัน ทำให้ท่าเรือแห่งนี้พัฒนาขึ้นเป็นท่าเรือระดับต้น ๆ ของโลก

จีนมีกองเรือเดินทะเลใหญ่เป็นอันดับสองของโลก จนถึงปลายปี 2020 ปริมาณการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศของจีนครองสัดส่วน 1 ใน 3 ของปริมาณการขนส่งทางทะเลโลก ศักยภาพการขนส่งของกองเรือเดินทะเลอยู่ที่ 314 ล้านตัน การขนส่งทางทะเลครองสัดส่วน 95% ของปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของจีน

หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้นกลายเป็นประเด็นแห่งยุคสมัย ทั้งยังเป็นจุดสำคัญของการพัฒนากิจการขนส่งทางเรือโลกอย่างต่อเนื่อง ในประเทศจีน “อัจฉริยะและสีเขียว” เป็นคำศัพท์สำคัญของการพัฒนากิจการขนส่งทางเรือ ที่ท่าเรืออัตโนมัติชิงเต่าจากการขนถ่ายสินค้าจนถึงมือผู้รับ ขั้นตอนต่าง ๆ ล้วนใช้ระบบอัตโนมัติ ประสิทธิภาพการทำงานสูงกว่าท่าเรือที่ทำงานด้วยมนุษย์ประมาณ 30% ขณะเดียวกัน การให้เรือเทียบท่าใช้ไฟฟ้าจากท่าเรือ การส่งเสริมให้ท่าเรือใช้พลังงานสะอาด เช่น ก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนสร้างระบบการใช้พลังงานที่สะอาดและปล่อย “คาร์บอนต่ำ”（Zhou/Dan/Tim）