อาเซียนรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จาก RCEP
 การเผยแพร่:2022-01-06 15:36:17   ดูความถี่:0 แหล่ง:CRI

\

สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP) เริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทำให้ประเทศอาเซียนทั้งหลายตื่นเต้นกับผลประโยชน์ที่จะได้รับ ต่างเห็นว่าเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกเริ่มดำเนินการแล้ว และจะนำมาซึ่งประโยชน์แท้จริงให้กับธุรกิจต่างๆ กระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมกระบวนการสร้างประชาคมทางเศรษฐกิจของอาเซียน

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียนปี 2022 คาดว่า ผลผลิตทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมของกัมพูชาจะได้รับประโยชน์ทางภาษี โดยความตกลง RCEP จะผลักดันให้จีดีพีของกัมพูชาเติบโตขึ้นประมาณ 2% การส่งออกและการลงทุนจะเติบโตขึ้น 7.3% และ 23.4%

ตามกฎแหล่งกําเนิดสินค้าภายใต้กรอบ RCEP ระหว่างการผลิตสินค้า หากมูลค่าเพิ่มเป็นของทั้ง 15 ประเทศ และสะสมมากกว่า 40% สินค้านี้ก็จะสามารถลดหรือปลอดภาษี นักวิเคราะห์เห็นว่านโยบายนี้จะทำให้ทรัพยากรการผลิตในภูมิภาคมีประสิทธิภาพสูงและราบรื่น ผลักดันกระบวนการสร้างประชาคมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

บริษัทตรวจสอบบัญชีเคพีเอ็มจีได้ประกาศรายงานว่า มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศอื่นๆ ภายใต้กรอบ RCEP เป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งในยอดการค้าทั้งประเทศ โดยเมื่อความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้แล้ว จะช่วยกระตุ้นการค้าของไทย เช่น รถยนต์และชิ้นส่วน พลาสติก ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ตามข้อมูลของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ เมื่อเข้าสู่ RCEP แล้ว ผลไม้ อาหารทะเล เสื้อผ้า กระดาษ จะได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนในการส่งออกไปยังจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และประเทศเอเชียตะวันออกอื่นๆ

อนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป ความตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้ใน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ส่วนเกาหลีใต้จะเข้าร่วมในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ส่วนประเทศสมาชิกที่เหลือจะเข้าร่วมหลังจากกระบวนการอนุมัติภายในประเทศ (Yim/Chu/zhou)


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น