สีจิ้นผิงดำเนิน“การทูตประมุข”ถี่ยิบอย่างมีนัยสำคัญ
 การเผยแพร่:2022-12-12 16:29:53   ดูความถี่:0 แหล่ง:CMG

ไม่นานหลังจากปิดการประชุมสมัชชาผู้แทนระดับชาติแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 (“สมัชชา 20”)  นายสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนได้ดำเนิน "การทูตประมุข" อย่างถี่ยิบ

ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน ปี 2022 สีจิ้นผิงพบปะเจรจากับผู้นำต่างประเทศที่เดินทางเยือนจีนติดต่อกันหลายคน ซึ่งรวมถึง เหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม,  เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน, ซาเมีย ซูลูฮู ฮัสซัน ประธานาธิบดีแทนซาเนีย และโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี

ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน ปี 2022 สีจิ้นผิงเดินทางไปเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ครั้งที่ 17  และเดินทางไปกรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ 29 พร้อมเยือนไทยอย่างเป็นทางการ  ระหว่างนั้นสีจิ้นผิงได้พบปะเจรจากับผู้นำต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศหลายคน

ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม ปี 2022 สีจิ้นผิงได้หารือกับผู้นำหลายคนที่เดินทางเยือนจีนตามลำดับ ซึ่งรวมถึงมิเกล ดิแอซ คาเนล เลขาธิการลำดับที่หนึ่งของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์คิวบาและประธานาธิบดีคิวบา,  อูคห์นาจิน ฮูเรลซูห์ ประธานาธิบดีมองโกเลีย,  ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและประธานาธิบดีลาว,  ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป

ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม ปี 2022 สีจิ้นผิงเดินทางไปยังกรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-ชาติอาหรับครั้งแรก การประชุมสุดยอดจีน-คณะกรรมการความร่วมมือแห่งชาติอาหรับรอบอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก และเยือนซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการ ในระหว่างนั้น สีจิ้นผิงได้เจรจาทวิภาคีกับผู้นำเกือบ 20 ประเทศ

กำหนดการทางการทูตที่แน่นมากนี้เผยให้เห็นถึงนัยที่ไม่ธรรมดา

\

หากมองโลกจากจีน แต่ไหนแต่ไรจีนจัดวางการพัฒนาของตนเองไว้ในระบบพิกัดที่ยิ่งใหญ่แห่งการพัฒนาของโลกเสมอมา หลอมรวมและส่งเสริมให้ประสบผลสำเร็จซึ่งกันและกันกับนานาประเทศ หลังปิดการประชุมสมัชชา 20 การที่สีจิ้นผิงดำเนิน "การทูตประมุข" อย่างถี่ยิบนั้น มีสิ่งที่แฝงไว้คือ ความคิดที่ลุ่มลึกและยาวไกลในการบูรณาการสถานการณ์โดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยพิจารณาจากสถานการณ์ใหม่ มีสิ่งที่โดดเด่นคือ ท่าทีอันแข็งขันในการลงลึกกระชับการไปมาหาสู่กันและความร่วมมือกับนานาประเทศของประเทศจีนซึ่งกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในการเดินทางครั้งใหม่ และมีสิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือ ความรับผิดชอบของจีนในฐานะประเทศใหญ่ท่ามกลางโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและความปั่นป่วนทับซ้อน

หากมองจีนจากทั่วโลก จีนซึ่งได้ค้นพบหนทางความทันสมัยแบบจีนและสร้างรูปแบบใหม่แห่งอารยธรรมมนุษยชาตินั้น กำลังมีอิทธิพล พลังระดมและพลังสร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นานาประเทศต่างปรารถนาที่จะเข้าหาใกล้ชิดกับจีน รับฟังเสียงจีน ทำความเข้าใจจีน และดำเนินความร่วมมือกับจีน

ท่าทีอันแข็งขันเช่นนี้ได้บ่งบอกอย่างชัดเจนให้เห็นถึงความแน่นอนทางประวัติศาสตร์อันได้แก่ "การพัฒนาของจีนไม่สามารถแยกออกจากโลกได้และการพัฒนาของโลกก็ต้องการจีนเช่นกัน" ทั้งยังให้ข้อแนะแนวอันลึกซึ้งกับชาวโลกว่า ความคิดสงครามเย็น การแข่งขันแบบต้องมีแพ้-ชนะ  “การตัดขาดห่วงโซ่”  การ “เล่นพรรคพวก”  การก่อการเผชิญหน้าระหว่างค่าย ฯลฯ ล้วนไม่เป็นที่ต้องการของโลก การเคารพซึ่งกันและกัน การเจรจาและความร่วมมือ การอำนวยผลประโยชน์แก่กัน และการได้ชัยชนะร่วมกันเท่านั้นจึงเป็นกระแสหลักที่สอดคล้องกับความปรารถนาของผู้คน

จากการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจะพบว่า ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้มีการพบปะและแลกเปลี่ยนแบบตัวต่อตัวกับประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาลของต่างประเทศ ตลอดจนหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศรวมแล้วมากถึงประมาณ 50 คน ในจำนวนนี้มีทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่า มีทั้งผู้นำของประเทศกำลังพัฒนาจากภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชีย แอฟริกา ละตินอเมริกา แปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง เป็นต้น และผู้นำจากประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป มีทั้งผู้นำจากประเทศเพื่อนบ้านรอบข้างและผู้นำจากประเทศในอีกฟากหนึ่งของโลก

สืบสานมิตรภาพ กระชับความร่วมมือ เพิ่มพูนความไว้วางใจ ขจัดความหวาดระแวง แสวงจุดร่วมและสงวนจุดต่าง เบื้องหลัง "การมีมิตรทั่วโลก" ของจีนคือ รูปแบบการทูตที่ไม่ขีดเส้นตามอุดมการณ์ไม่ตัดสินความใกล้ชิดหรือระยะห่างตามขนาดของอีกฝ่าย ความมั่งคั่งหรือความยากจน ความอ่อนแอหรือความเข้มแข็ง  และคือแบบแผนและปณิธานของประเทศขนาดใหญ่ที่มุ่งพัฒนาความร่วมมือฉันมิตรกับนานาประเทศ ผลักดันการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่ และลงลึกขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนทั่วโลกที่เท่าเทียมกัน เปิดกว้าง และร่วมมือกัน

\

การประชุมสมัชชา 20 ได้เสนออย่างชัดแจ้งว่าจีนจะขับเคลื่อนการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรื่องอย่างยิ่งใหญ่แห่งประชาชาติจีนในทั่วทุกด้านผ่านความทันสมัยแบบจีน ระหว่างการเดินทางครั้งใหม่ ทุกฝ่ายย่อมจับตามองอย่างใกล้ชิดว่า การพัฒนาของจีนจะมีทิศทางอย่างไรและมีความหมายต่อโลกอย่างไร ในโอกาสสำคัญต่างๆ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้อรรถาธิบายอย่างลึกซึ้งเพื่อให้โลกเข้าใจถึงนัยสำคัญต่างๆ ของความทันสมัยแบบจีน และได้บรรยายถึงคุณค่าแห่งยุคสมัยและความหมายระดับโลกของความทันสมัยแบบจีน เช่น

"การที่ประชากรกว่า 1.4 พันล้านคนของจีนบรรลุความทันสมัยนั้นจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การพัฒนาแห่งมนุษยชาติ" "ไม่เพียงแต่จะบรรลุความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาของจีนเองเท่านั้น หากยังจะให้การพัฒนาของจีนเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนบ้านและทั่วโลกอีกด้วย" "เราจะใช้ความทันสมัยแบบจีนส่งเสริมความก้าวหน้าโดยรวมของมนุษยชาติ นำโอกาสใหม่ ๆ มาสู่โลกด้วยการพัฒนาใหม่ของจีน และมอบความมั่นคงและความแน่นอนมากยิ่งขึ้นให้กับโลกที่ปั่นป่วน"

เชื่อมโยงภายในประเทศกับต่างประเทศ เชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับอนาคต โลกรับรู้อย่างลึกซึ้งจากคำบอกเล่าของผู้นำจีนว่า ความทันสมัยแบบจีนไม่ใช่การลอกเลียนการผงาดขึ้นของมหาอำนาจแบบดั้งเดิม ยิ่งไม่ใช่การซ้ำรอยปรากฏการณ์ที่ว่าประเทศแข็งแกร่งย่อมต้องการเป็นผู้ครองความเป็นเจ้า แต่เป็นหนทางที่ถูกต้องที่สร้างความสุขแก่จีนและเป็นประโยชน์ต่อโลก ในโลกที่กำลังวุ่นวายและเกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกฝ่ายมีความคาดหวังที่สูงยิ่งขึ้นและมีความมั่นใจที่มากยิ่งขึ้นต่อการพัฒนาของจีน และได้ตระหนักอย่างลึกซึ้งว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคการเมืองที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในระดับโลกและมีความรับผิดชอบสูงต่อทั่วโลก

“การผงาดขึ้นของจีนมิอาจขัดขวางได้ จีนที่แข็งแกร่งและเป็นมิตรจะนำอิทธิพลเชิงบวกมาสู่ภูมิภาคและทั่วโลก" "จีนประสบความสําเร็จในการพัฒนาอย่างยิ่งใหญ่ดั่งปาฏิหาริย์แห่งยุคสมัย และได้ยึดมั่นแนวคิดพหุภาคีนิยมในเวทีสากล ส่งเสริมความสามัคคีและความร่วมมือ ได้สร้างคุณูปการสําคัญในการปกป้องสันติภาพและการพัฒนาของโลก" "จีนเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตของโลก"... ในระหว่างการพบปะเจรจา ผู้นำต่างประเทศจำนวนมากต่างแสดงความปรารถนาร่วมกันอย่างจริงใจที่จะร่วมมือและก้าวไปข้างหน้าพร้อมจีน

รายงานการประชุมสมัชชา 20 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาตินั้นเป็นอนาคตของประชาชนทุกประเทศในโลก ภายใต้การชี้นำของ“การทูตประมุข” การทูตของประเทศใหญ่ที่มีเอกลักษณ์ของจีนได้เริ่มการเดินทางครั้งใหม่ที่ชูธงแห่งการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาติไว้สูง ซึ่งย่อมจะอัดฉีดความมั่นใจ ความกล้าหาญและกำลังวังชาอันเข้มแข็งเพื่อประเทศต่างๆทั่วโลกร่วมเดินบนหนทางที่ถูกต้องในใต้หล้าและร่วมสร้างสรรค์อนาคตที่ดีงาม (YIM/LU)


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น