‘สี จิ้นผิง’ กับภารกิจช่วยเหลือผู้ยากจนของจีน
 การเผยแพร่:2020-10-10 16:54:05   ดูความถี่:0 แหล่ง:CRI

คาดว่าในอีกไม่กี่เดือน ประชากรยากไร้ในจีนจะพ้นจากความยากจนทั้งหมดเช่นเดียวกับอำเภอยากจนต่าง ๆ ปัญหาความยากจนที่ก่อกวนประชาชาติจีนมานับพันนับร้อยปีจะได้รับการแก้ไขโดยสิ้นเชิง ผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ดังกล่าวแยกออกจากความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่และการชี้นำอันเข้มแข็งของนายสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดและประธานาธิบดีของจีนไม่ได้

การขจัดความยากจนเป็นหนทางที่ย่อมต้องเป็นไปเพื่อบรรลุอุดมการณ์มั่งคั่งร่วมกันของสังคมนิยมจีน นายสี จิ้นผิง ระบุอย่างชัดเจนว่า “ความมั่งคั่งร่วมกันเป็นหลักการพื้นฐานของสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน ด้วยเหตุนี้ จึง จำเป็นต้องให้ประชาชนทั้งหลายได้มีโอกาสแบ่งปันผลงานการพัฒนาให้มากและยุติธรรมยิ่งขึ้นเพื่อก้าวสู่ความมั่งคั่งร่วมกันอย่างมั่นคง” นายสี จิ้นผิง เคยกล่าวเน้นหลายต่อหลายครั้งว่า ต้องบรรลุเป้าหมายที่กำหนดให้ประชากรยากจนของจีนพ้นจากความยากจนทั้งหมดภายในปี 2020 ภายใต้การชี้นำอันเข้มแข็งของนายสี จิ้นผิง ทั่วทั้งประเทศจีนจากส่วนกลางจนถึงส่วนท้องถิ่นใช้มาตรการสำคัญจำนวนหนึ่งและใช้ปฏิบัติการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยเปิดศึกกับความยากจนขนานใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนสร้างปาฏิหาริย์แห่งการขจัดความยากจนในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ที่ทำให้ชาวโลกชื่นชมและชาวจีนภาคภูมิใจ

ในช่วงดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี ฉบับที่  13 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีนายสี จิ้นผิงเป็นแกนกลางได้จัดการขจัดความยากจนให้อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นด้านธรรมาภิบาล ทุ่มกำลังในการดำเนินยุทธศาสตร์ช่วยเหลือผู้ยากจนและขจัดความยากจนอย่างตรงจุด ระหว่างปี 2015 - 2019 จำนวนประชากรยากจนที่ขึ้นทะเบียนลดจาก 55.75 ล้านคน เหลือ 5.51 ล้านคน ขณะที่ จำนวนอำเภอยากจนลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการเกิดความยากจนลดจาก 5.7% เหลือเพียง 0.6% การขจัดความยากจนจึงมีผลสำเร็จที่แน่นอนและมั่นคง

ในช่วง 5 ปี ของการดำเนินตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 เป็นช่วงที่จีนเสริมพลังเพื่อขจัดความยากจนให้มากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ย้ายบ้านออกจากเขตภูเขาอันห่างไกลและเริ่มต้นชีวิตใหม่ นายเหอ โบยี่  จากหมู่บ้านเอ๋อเคอหลัว ตำบลจื่อหลี่เจี่ย อำเภอฝูก้ง มณฑลหยุนหนาน เล่าให้ฟังว่า “ขอบคุณทีมงานที่จัดการพูดคุยกันครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งช่วยให้ผมขจัดความกังวลต่าง ๆ ปัจจุบัน ผมมีงานทำใกล้บ้าน ชีวิตความเป็นอยู่มีความมั่นคงมากขึ้น”  เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ยากมาก ทีมงานจากจังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าลี่ซู่นู่เจียงจึงเดินทางยังหมู่บ้านเอ๋อเคอหลัวหลายต่อหลายครั้งเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ยากจนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ย้ายออกจากเขตภูเขาอันห่างไกล นายน่า หยุนเต๋อ  เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำจังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าลี่ซู่นู่เจียง ระบุว่า “เมื่อมีการสนับสนุนอันทรงพลังจากนโยบายช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด ปีนี้ จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าลี่ซู่นู่เจียงจะบรรลุเป้าหมายที่จะเปลี่ยนจากเขตยากจนมากให้เป็นพื้นที่หลุดพ้นจากความยากจนทั้งหมด”

ในช่วง 5 ปี ระหว่างปี 2015 - 2019 เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน 5  ระดับล้วนถือการขจัดความยากจนเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบและลงเรี่ยวลงแรงด้านนี้อย่างเต็มที่ โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ยากจนเข้าไปทำงานตามหมู่บ้านกับครอบครัวยากจนต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด สำนักงานการคลังส่วนกลางได้เพิ่มทุนสนับสนุนโดยเฉพาะเพื่อช่วยเหลือผู้ยากจนมากขึ้นทุกปี โดยอัตราการเพิ่มขึ้นมีมากกว่าร้อยละ 20 นอกจากนี้ จีนยังใช้นโยบายและมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาความยากลำบากต่าง ๆ เกี่ยวกับการขจัดความยากจน ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีดังกล่าว จีนได้ลดจำนวนประชากรยากจนลงเฉลี่ย 11 ล้านคนต่อปี

ช่วงปี 2015 - 2019 เป็นช่วง 5 ปีที่งานขจัดความยากจนของจีนมีคุณภาพสูงขึ้น

“ขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือ ปัจจุบัน ภรรยาของผมและผมต่างมีงานใหม่ทำ แถมเรายังเป็นผู้มีฝีมือในหน้าที่การงานทั้งคู่อีกด้วย”  นายหม่า จิ้นหยุน จากหมู่บ้านเหล่าซู่โกว อำเภอคังเล่อ จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าหุยหลินเซี่ย มณฑลกานซู่ ทางตะวันตกของจีน กล่าวด้วยความดีใจ เมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ใช้วิธีการจับคู่ช่วยเหลือเขตยากจน โดยจับคู่กับคังเล่อ  จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าหุยหลินเซี่ย มณฑลกานซู่ และมีการแลกเปลี่ยนงานของกันและกัน เมืองเซี่ยเหมินระดมธุรกิจต่าง ๆ มาลงทุนและประกอบกิจการที่อำเภอคังเล่อ เพื่อช่วยสร้างโรงงานและช่วยเหลือประชากรจำนวนกว่า 20,000 คนบรรลุเป้าหมายการ “ทำงานคนเดียวช่วยทั้งครอบครัวพ้นความยากจน”

ในช่วงดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 รายได้ของผู้ยากไร้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการศึกษาภาคบังคับ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน และความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นหลักประกัน 3  ด้านได้รับการแก้ไขโดยทั่วไป จากสถิติพบว่า ประชากรยากจนทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนมีจำนวนร้อยละ 90 ขึ้นไปได้รับการสนับสนุนจากโครงการอุตสาหกรรมการผลิตและโครงการสร้างงานเพื่อช่วยเหลือผู้ยากจน ขณะที่ ผู้ยากไร้ 2 ใน 3 พ้นจากความยากจนด้วยการมีงานทำในต่างถิ่นและทำงานด้านอุตสาหกรรมการผลิต อีกทั้งยังมีศักยภาพพ้นจากความยากจนด้วยตนเองเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง ตั้งแต่ปี 2015 – 2019 รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงเฉลี่ยต่อคนของเกษตรกรในเขตยากจนทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้นและสูงกว่าระดับเฉลี่ยของทั่วประเทศ ส่วนรายได้สุทธิเฉลี่ยต่อคนของครอบครัวยากจนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 30.2%

ตั้งแต่ปี 2015 - 2019 เป็นช่วง 5 ปีที่การผลิตและชีวิตความเป็นอยู่ของพื้นที่ยากจนได้รับการปรับปรุงดีขึ้น

นายหวาง เป่าเหลียน ผู้ยากจนจากหมู่บ้านซูไถ ตำบลปาโจว เมืองปาจง  มณฑลซื่อชวน เล่าให้ฟังว่า “ปัจจุบัน คลินิกประจำหมู่บ้านมียาที่ใช้บ่อยครบถ้วน  เมื่อมีอาการเจ็บป่วยไม่หนัก เราก็สามารถไปรักษาได้ที่คลินิกประจำหมู่บ้านโดยเสียค่าใช้จ่ายเพียง 10% เท่านั้น ทั้งสะดวกแถมยังประหยัดด้วย” ปัจจุบัน ตำบลปาโจวมีคลินิกประจำหมู่บ้านที่ผ่านมาตรฐานจำนวน 382 แห่ง รัฐบาลได้จัดส่งอายุรแพทย์ให้ทั่วถึงทุกหมู่บ้าน หากป่วยเป็นโรคที่รักษายากก็จะให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์โดยมีหลักประกันสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก และหากป่วยเป็นโรคเรื้อรังก็จะให้ลงนามสัญญาเพื่อได้รับการรักษา มาตรการดังกล่าวช่วยแก้ไขการปัญหารักษาพยายาลอย่างยากลำบากและค่าใช้จ่ายที่สูงแก่บรรดาผู้ยากจน

ในช่วงดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 การบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของเขตยากจนมีระดับสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้ยากไร้มีหลักประกันด้านการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน การศึกษาภาคบังคับ และความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย โดยหมู่บ้านยากจนทุกแห่งต่างมีคลินิก การเรียนการสอนของโรงเรียนภาคบังคับจำนวน 108,000 แห่งได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น  โครงการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ย้ายถิ่นจากเขตยากจนได้สำเร็จลุล่วงทั้งหมด โดยมีประชากรยากจนจำนวนกว่า 9.6 ล้านคนย้ายออกมาจากที่พักที่อยู่ในสภาพอันตรายเพื่อมาอยู่ในที่พักที่ปลอดภัย

หมู่บ้านที่มีความพร้อมต่างสร้างถนน เครือข่ายสายส่งไฟฟ้าในเขตชนบท ซึ่งมีอัตราความวางใจได้ถึง 99% นอกจากนี้ สัดส่วนบริการโครงข่ายบรอดแบนด์ในหมู่บ้านยากจนที่ตั้งอยู่ในเขตยากจนยังมีมากถึง 98% ปัญหาเรื่องการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ การมีใช้ไฟฟ้าใช้ และความยากลำบากในการสื่อสารโทรคมนาคมของเขตยากจนได้รับการแก้ไขโดยทั่วไป

แผนบรรเทาความยากจนและผลสำเร็จด้านการบรรเทาความยากจนของจีนได้รับการรับรองและการประเมินค่าอย่างสูงจากประชาคมโลก นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่า “ยุทธศาสตร์การช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุดเป็นหนทางเดียวในการช่วยเหลือประชากรยากจนและบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของกระบวนการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2030 ทั้งนี้ ประสบการณ์ของจีนเป็นที่น่าศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติตามของประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ”(Tim/Zhou/Lu)


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น