นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเคยระบุว่า “มีเพียงยืนหยัดก้าวย่างจากประวัติศาสตร์สู่อนาคต สืบสานสายเลือดแห่งวัฒนธรรมชนเผ่าสู่การบุกเบิกหนทางข้างหน้า จึงจะทำภารกิจในวันนี้ให้ลุล่วงด้วยดีได้”

เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายสี จิ้นผิงลงพื้นที่ดูงานและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซี (Anthropology Museum Of Guangxi)    ซึ่งกว่างซีเป็นเขตที่มีประชากรชนเผ่าน้อยมากที่สุดของจีน และชนเผ่าจ้วงเป็นชนเผ่าที่มีประชากรจำนวนมากที่สุดของจีน ประชาชนชนเผ่าต่างๆได้ร่วมสร้างวัฒนธรรมหลากหลายให้กับชาติ ได้ร่วมสืบสานและส่งเสริมวัฒนธรรมประจำเผ่าของตน เช่น กลองทองแดงชนเผ่าจ้วง ศิลปะการแสดงงิ้วกว่างซีสำนักกุ้ยหลิน พิณสายเดี่ยวของชนเผ่าจิง

พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซีเปิดสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2008 เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการก่อตั้งเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้างกว่างซี

ต่อมาเนื่องในโอกาสครบรอบ 66 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2015 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้เชิญบุคคลดีเด่นระดับรากหญ้าด้านการสร้างความสามัคคีระหว่างชนเผ่าจำนวน 13 คนเข้าร่วมงานฉลองวันชาติที่กรุงปักกิ่ง และได้พบปะพูดคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง ซึ่งรวมถึงนางตู้ ลี่ฉวิน ตัวแทนชนเผ่าจ้วงของกว่างซี เธอเล่าว่า นายสี จิ้นผิงให้โอวาทแก่พวกเราว่า ความสามัคคีระหว่างชนเผ่าก็คือเส้นชีวิตของประชาชนชนเผ่าต่างๆ “การสร้างความสามัคคีระหว่างชนเผ่าที่สำคัญอยู่ที่การเปิดอกให้ความจริงใจ เอาใจเขาใส่ใจเรา ใช้ใจแลกใจ”

เดือนเมษายน ปี 2017 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางไปตรวจงานที่กว่างซี เขาย้ำว่า “ควรถนอมรักษาความสามัคคีระหว่างชนเผ่าดั่งถนอมดวงตาของตนเอง ให้ทุกชนเผ่าสืบสานขนมธรรมเนียมอันดีให้ใจเชื่อมใจ จับมือสานต่อกันไปจากรุ่นสู่รุ่น”

สำหรับการลงพื้นที่เยือนพิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซีครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ก็ให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมความสามัคคีระหว่างชนเผ่าเช่นกัน ดั่งที่ระบุว่า “การดำเนินภารกิจด้านชนเผ่าให้ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือ สร้างความสามัคคีระหว่างชนเผ่า ซึ่งสิ่งที่ใช้การได้ที่สุดคือ เอาชนะใจประชาชนให้ได้”

กว่างซีเป็นเขตปฏิวัติเก่า พื้นที่ชายแดน พื้นที่ชนเผ่า โครงการพ้นจากความยากจนอย่างสุดความสามารถจึงมีความสำคัญพิเศษ นายสี จิ้นผิงเคยย้ำขณะดูงานที่กว่างซีเมื่อปี 2017 ว่า “โครงการพ้นจากความยากจนอย่างสุดความสามารถทำได้ดีแล้ว เป็นการปูฐานอันแข็งแกร่งให้กับความมั่นคงของพื้นที่ชายแดนและความสามัคคีระหว่างชนเผ่า เมื่อพื้นที่ชายแดนดำเนินด้วยดี กิจการชนเผ่ามีผลคืบหน้า ย่อมส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายการหลุดพ้นความยากจนเช่นกัน”

ล่าสุดในงานสรุปและเชิดชูโครงการบรรเทาความยากจนอย่างสุดความสามารถระดับชาติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ นายสี จิ้นผิงระบุว่า โครงการพ้นจากความยากจนอย่างสุดความสามารถของจีนประสบชัยชนะทุกด้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องอันยิ่งใหญ่ในพื้นที่ชนเผ่าน้อยต่างๆ ด้วย “ชนเผ่าที่มีประชากรค่อนข้างน้อยจำนวน 28 ชนเผ่าได้หลุดพ้นจากความยากจนทั้งชนเผ่า ส่วนอีกหลายชนเผ่าก็สามารถก้าวพ้นจากความยากจนล้าหลังแบบ ‘ก้าวเดียวข้ามพันปี’ สู่สังคมพอกินพอใช้ หลังการสถาปนาประเทศจีนใหม่ นับเป็นการก้าวกระโดดเชิงประวัติการณ์เป็นครั้งที่ 2”(YIM/LING/SUN)