ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม เกิดฝนตกหนักซัดกระหน่ำเจิ้งโจว เมืองเอกมณฑลเหอหนาน ภาคกลางของจีน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 449 มิลลิเมตร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ปัจจุบัน มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงราว 1 แสนคน จากแง่อุตุนิยมศาสตร์แล้ว นับเป็นฝนตกหนักสุดในรอบ 1,000 ปี

ปัจจุบัน เจิ้งโจวมีสภาพดั่ง “เกาะร้าง” ระดับน้ำท่วมสูงถูกตัดขาดจากภายนอก ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ระบบการจราจรเป็นอัมพาต มีชาวบ้านติดค้างในอาคาร โรงพยาบาลบางแห่งไม่มีไฟฟ้าใช้กระทบต่อการรักษาผู้ป่วย ยานยนต์บนท้องถนนถูกกระแสน้ำพัดพลิกคว่ำ อาคารบ้านเรือนชั้นล่างหลายหลังถูกน้ำท่วมขัง

ภายในสถานีรถไฟใต้ดินเมืองเจิ้งโจว ก็มีปริมาณน้ำฝนเอ่อท่วมโบกี้ น้ำสูงถึงช่วงอกกระทั่งศีรษะของผู้โดยสารภายในรถ จนถึงเช้าตรู่วันที่  21 กรกฎาคม ผู้ที่ตกค้างในอุโมงค์รถไฟใต้ดินได้ถูกย้ายไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว

นอกจากนี้ ฝนตกหนักยังทำให้การไฟฟ้าขัดข้องในบางชุมชนและโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่ 1 สังกัดมหาวิทยาลัยเจิ้งโจวระบุว่า ระบบไฟฟ้าขัดข้องทั่วโรงพยาบาล ลิฟต์ทุกตัวหยุด และไฟฟ้าสำรองก็ใช้การไม่ได้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เกือบ 3,000 คนปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน ปลอบขวัญผู้ป่วย และเร่งติดต่อประสานงานย้ายผู้ป่วยอาการหนักราว 600 คนไปยังที่อื่นเป็นการด่วน

ระบบการจราจรที่ตกอยู่ในอัมพาต ทำให้ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยกลับบ้านไม่ได้ จำเป็นต้องค้างในที่ทำงานหรือโรงแรม ทำให้โรงแรมในเมืองเจิ้งโจวมีอัตราเข้าพักเต็มร้อย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของทางการและภาคเอกชนกลายเป็นโล่ป้องกันที่ทรงพลังยิ่ง เวลา 18.00 น.วันที่  20 กรกฎาคม สมาคมนักธุรกิจรุ่นใหม่เหอหนานเริ่มโครงการ “รับคนแปลกหน้ามาค้างแรม” จากนั้น สมาชิกสมาคม 19 คนได้มุ่งหน้าสู่พื้นที่ประสบภัย และทำให้รถพังเสียหายไป 9 คัน

ด้านหอสมุดเจิ้งโจวประกาศผ่านบัญชีวีแชตทางการให้บริการฟรีวายฟาย น้ำดื่ม ของว่างและสถานที่พักผ่อน

ส่วนหอวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจิ้งโจวก็ประกาศให้ผู้ประสบภัยเข้าพักหลบฝน พร้อมบริการน้ำร้อนและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

(YIM/LING/SUN)

ลิขสิทธิ์เป็นของ China Face