บทวิเคราะห์ : จากการประชุมผู้นำสุดยอดสหรัฐฯ-อาเซียนพิจารณาแนวคิด“ความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”
 การเผยแพร่:2022-05-17 16:37:00   ดูความถี่:0 แหล่ง:CRI

\

ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคมที่ผ่านมา  ตามเวลาท้องถิ่น  การประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-อาเซียนได้จัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ ประเด็นของการประชุมครั้งนี้รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า  ปัญหาเมียนมา  ปัญหาทะเลจีนใต้  วิกฤตยูเครน  ตลอดจนสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้น  มีนักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า  การประชุมครั้งนี้เป็นการทดสอบแนวคิด “ความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”

ระหว่างการประชุมครั้งนี้  นอกจากการประชุมอย่างเป็นทางการระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย  บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนยังได้พบปะหารือกันกับผู้แทนรัฐสภา  ทางการเมืองและธุรกิจของสหรัฐฯ ด้วย  นอกจากนี้  บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนยังถือโอกาสนี้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ อีกด้วย

นับเป็นครั้งแรกที่บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนเจอหน้ากันที่กรุงวอชิงตันหลังจากอาเซียนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1967  ในจำนวน 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน มีผู้นำจาก 8 ประเทศได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้  นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ไม่ได้ร่วมประชุมเนื่องจากอยู่ในช่วงระยะผ่านหลังการเลือกตั้งโดยทั่วไป  แต่เขาจัดส่งนายทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวแทนของฟิลิปปินส์ไปร่วมการประชุมครั้งนี้  ส่วนเมียนมาไม่มีผู้แทนเข้าร่วมการประชุมเนื่องจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ  สำหรับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา  การเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสการเยือนสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกหลังจากเข้าดำรงตำแหน่งนายกฯกัมพูชาค.ศ. 1998

ปีนี้ครบรอบ 45 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-สหรัฐ  ในที่ประชุมครั้งนี้  นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯสัญญาว่า  จะลงทุน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่อาเซียนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด  รักษาความปลอดภัยทางทะเล  พัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์  จัดการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและพัฒนาสาธารณสุข  เป็นต้น  แถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมระบุว่า  ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างอาเซียน-สหรัฐ ที่เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ร่วมกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐครั้งที่ 10 ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

ปีนี้  กัมพูชา  ไทย  และอินโดนีเซีย เป็นประเทศประธานของอาเซียน  เอเปก  และ G20 ตามลำดับ  ทั้งอาเซียนและสหรัฐฯ ตั้งใจจะนำประเด็นต่าง ๆ ของการประชุมครั้งนี้ไปปรึกษาหารือกันต่อในการประชุมสุดยอดของอาเซียน  เอเปก  และ G20 ในปีนี้

นอกจากนี้  ระหว่างการประชุมผู้นำสุดยอดสหรัฐฯ-อาเซียนครั้งนี้  ปธน.ไบเดน ยังเสนอให้นายโยฮันเนส อับราฮัม (Yohannes Abraham) ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เป็นผู้แทนสหรัฐฯประจำอาเซียน  มีนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า  พิจารณาจากการประชุมครั้งนี้จะพบว่า สหรัฐฯ เจ้าภาพของการประชุมวางจุดสำคัญอยู่ที่ความปลอดภัยส่วนภูมิภาคและความร่วมมือทางการทหารมากกว่า  แต่อาเซียนต้องการขยายการส่งออกถึงสหรัฐฯ  และหวังให้สหรัฐฯ เข้าร่วมความตกลงการค้าเสรีส่วนภูมิภาค  ตัวอย่างเช่น  นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ  นายกฯมาเลเซียได้เร่งให้สหรัฐฯใช้ปฏิบัติการแข็งขันยิ่งขึ้นในด้านการค้าและการลงทุนในอาเซียน  และวิงวอนให้ธุรกิจสหรัฐฯ ให้ความสำคัญเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ส่วนพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยระบุว่า  อาเซียนพร้อมจะมีบทบาทในฐานะเวทีหลักของภูมิภาคที่จะเชื่อมโยงผู้เล่นทุกคนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างภูมิรัฐศาสตร์ที่สงบสุข

ทั้งนี้  มีสื่อมวลชนระบุว่า  เมื่อเทียบกับความช่วยเหลือมูลค่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐของสหรัฐฯที่มีต่อยูเครน  การลงทุนในอาเซียนมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐของสหรัฐฯนั้น น้อยมาก

\

แนวคิด “ความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน” เป็นหลักการพื้นฐานของอาเซียนในการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต  และดำเนินความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ   โดยมีนัย 2 ประการคือ  ต้องป้องกันไม่ให้อาเซียนถูกแบ่งแยก  และเป็นตัวของตัวเอง  โดยบ่งบอกให้บรรดามหาประเทศต้องเคารพแนวคิดความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนด้วย

เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษหลังจากอาเซียนจัดตั้งขึ้น  10 ประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีความแตกต่างและมีความหลากหลายมากนั้น ปฏิบัติตามหลักการความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยผ่านการปรึกษาหารือกัน  เพื่อความสามัคคี    ความเป็นตัวของตัวเอง  และความเข้มแข็งของอาเซียน

ประชาคมโลกก็คาดหวังว่า  อาเซียนจะแสดงบทบาทความเป็นศูนย์กลางในการควบคุมความขัดแย้งกันและรักษาความสมดุลกันระหว่างบรรดามหาประเทศ (Yim/Zhou)


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น