บทวิเคราะห์ – การตอบโต้แย่งชิงระหว่างสองพรรคสหรัฐฯ มีแต่จะทำให้ “ฝันร้ายสหรัฐฯ” ร้ายแรงยิ่งขึ้น
 การเผยแพร่:2022-06-16 16:09:54   ดูความถี่:0 แหล่ง:CMG

\

ถึงวันที่ 14 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น  คณะกรรมการสอบสวนพิเศษของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุจลาจลที่แคปิตอล ฮิลล์ 2 ครั้งแล้ว ซีเอ็นเอ็นได้วิจารณ์ว่า การถ่ายทอดสดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจะช่วยให้สหรัฐฯจดจำผลกระทบจาก “ฝันร้ายทั่วประเทศ” ครั้งนี้ได้ และเป็นโอกาสที่ให้ทั่วโลกสัมผัสได้ถึงประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯอีกครั้ง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม ปี 2021 กลุ่มผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนหลายพันคนได้บุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ มุ่งหมายที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งด้วยวิธีการใช้กำลังรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่า 140 นาย และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 700 คน เหตุการณ์ที่สะเทือนใจชาวโลกครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “วาระที่มืดดำที่สุดของประชาธิปไตยสหรัฐฯ” ถ้าลองมองดูแบบผิวเผิน เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากผู้สนับสนุนนายทรัมป์ไม่พอใจต่อผลการเลือกตั้ง แต่ธาตุแท้คือเป็นผลที่เกิดจากความแตกแยกที่ร้ายแรงภายในประเทศสหรัฐฯ และการแบ่งขั้วทางการเมืองที่นับวันรุนแรงยิ่งขึ้น  

ในที่ประชุมรับฟังความคิดเห็น 2 ครั้งที่ผ่านมา ได้เผยแพร่วิดีโอและคำให้การจำนวนมาก เพื่อหาหลักฐานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุก่อจลาจลแคปิตอล ฮิลล์หรือไม่ มีการกระทำที่เหมือนจะโกงการเลือกตั้งภายใต้สภาพที่รู้ว่าตนเองเสียเปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่ เป็นต้น วิดีโอและคำให้การเหล่านี้เป็นการโชว์บาดแผลของประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯ และเป็นการเปิดโปงหน้าตาที่แท้จริงของระบบประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯ ที่เป็นเครื่องมือแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ของเหล่านักการเมือง

ช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มการตรวจสอบเหตุก่อจลาจลที่แคปิตอล ฮิลล์ มาจนถึงจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ล้วนเปี่ยมด้วยการโต้ฝีปากแย่งชิงอำนาจระหว่างสองพรรคของสหรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตพยายามระดมการตรวจสอบ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมรับฟังความคิดเห็น ส่วนพรรครีพับลิกันก็ประณามว่าสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบส่วนใหญ่เข้าข้างพรรคเดโมแครต การประชุมรับฟังความคิดเห็นเป็น “วิธีการพรางตา” ไม่ให้เห็นข้อขัดแย้งอื่นๆเท่านั้น

ประชาธิปไตยไม่ควรเป็นเพียงคำขวัญสวยหรู แต่ต้องเพื่อใช้แก้ไขปัญหาจริง ถ้าหาก “ประชาธิปไตย” ที่นักการเมืองสหรัฐฯพูดชื่นชมติดปากนั้น ไม่สามารถป้องกันโรคระบาด ไม่สามารถแก้ไขสภาพเงินเฟ้อ ไม่สามารถควบคุมการใช้ปืน ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน นั่นแสดงว่าประชาธิปไตยแบบนี้กำลังเจ็บป่วยและเป็นการป่วยหนักด้วย

เสียงวิจารณ์ที่สมเหตุสมผลถือเป็นคำเตือนให้กับนักการเมืองวอชิงตัน ถ้าหากพวกเขายังคงตกอยู่ในสภาพโต้ตอบแย่งชิงกันไม่หยุด ไม่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาภายในประเทศสหรัฐฯ นั่นจะหมายถึงว่า “ประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯ” ป่วยหนักจนไม่มียารักษาได้แล้ว การจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจำนวนครั้งมากมายเท่าไหร่ก็จะไม่ได้ผล “ฝันร้ายสหรัฐฯ ” ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Yim/Lin/Cui)


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น