ในงานมหกรรมห่วงโซ่อุปทานนานาชาติจีน (CISCE) ครั้งที่ 2 มีตัวแทนจากบริษัทต่างประเทศหลั่งไหลมาร่วมเป็นจำนวนมาก  ในบรรดาผู้แสดงสินค้าต่างประเทศ บริษัทอเมริกันมีจำนวนมากที่สุด  ส่วนบริษัทในยุโรปและญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ตั้งแต่พื้นที่จัดแสดงห่วงโซ่อุตสาหกรรม "การบูรณาการของจีนและต่างประเทศ" ไปจนถึงพื้นที่จัดแสดงห่วงโซ่การผลิตขั้นสูงที่เพิ่งเพิ่มเข้ามา แม้พื้นที่จัดแสดงของงานนี้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังขอพื้นที่แสดงสินค้าได้ยาก หมายความว่าอย่างไร และเหตุใดโลกจึงต้องการ "ห่วงโซ่" ของจีน?

สำหรับบริษัทต่างชาติ สิ่งแรกที่พวกเขาให้ความสำคัญ คือ โอกาสแลกเปลี่ยนและความร่วมมือที่มาจากแพลตฟอร์ม "ห่วงโซ่" ที่สร้างขึ้นโดยจีน ในฐานะงานแสดงระดับชาติในธีมห่วงโซ่อุปทานงานแรกของโลก CISCE ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระดับนานาชาติที่คนทั่วโลกต้องการ นอกจากนี้ สิ่งที่บริษัทต่างชาติให้ความสำคัญ คือ ความสามารถของจีนในการ "เชื่อมโยง" กับโลก ในฐานะประเทศผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้ค้าขายสินค้ารายใหญ่ด้วย จีนจึงเป็นตัวเชื่อมโยงสำคัญในห่วงโซ่การผลิตและซัพพลายเชนระดับโลก ประการแรก จีนนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าแก่ผู้บริโภคทั่วโลกและให้การรับประกันที่สำคัญ สำหรับการดำเนินการในทุกด้านของเศรษฐกิจ ประการที่สอง จีนยังเป็นประเทศที่มีหมวดหมู่อุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์แบบที่สุดภายใต้มาตรฐานของสหประชาชาติ ที่ถนนหนึ่งเส้นรวบรวมห่วงโซ่อุตสาหกรรมหนึ่งสายไว้ได้ด้วยกัน และการที่รถยนต์ออกจากสายการผลิตใน 40 วินาที ได้กลายเป็นตัวอย่างที่ดีของความสามารถด้านอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของบริษัทต่างประเทศอย่างมาก และช่วยลดต้นทุนการประกอบการด้วย

ถ้ามองในระยะยาว ในยุคโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ มีเพียงการยึดมั่นในความร่วมมือแบบเปิดในการผลิตและห่วงโซ่อุปทานระดับโลกเท่านั้นที่สามารถบรรลุการพัฒนาแบบ win-win การประชุมเต็มคณะของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ชี้ให้เห็นว่า ควรส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ความคิดริเริ่มร่วมกันครั้งแรกของห่วงโซ่อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เปิดตัวที่ CISCE  ไปจนถึงการส่งเสริมข้อเสนอร่วมกันของวงการธุรกิจจีนและอเมริกันเพื่อ "เพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน APEC" จีนได้ส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจโลกแบบเปิดอย่างแข็งขัน และรักษาเสถียรภาพของการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน เสริมสร้างความเชื่อมั่นของบริษัทต่างชาติในการเข้าสู่ตลาดจีนอย่างแข็งขัน （Yim/Lei/YZ）