หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า หลายปีมานี้ นักศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วกลับประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญว่า เศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐฯซบเซาลง และการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียสร้างโอกาสให้นักศึกษาที่เรียนต่อต่างประเทศมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวพบว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในบริษัทไทยส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง พวกเขาส่วนใหญ่มีประสบการณ์เรียนต่อประเทศยุโรป หรือสหรัฐฯ สามารถนำเทคโนโลยี และประสบการณ์การบริหารที่ทันสมัยของประเทศตะวันตกมาประยุกต์ใช้กับสังคมไทย จึงมีโอกาสเลื่อนตำแหน่งมากขึ้น

คุณไช่ เหว่ยฉาย รองประธานธนาคารกสิกรไทยเคยศึกษาในสหรัฐฯ เป็นเวลา 6 ปี แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะกลับมาทำงานในไทย เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลายปีมานี้ เศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐฯ ไม่ค่อยดี ไม่เพียงแต่นักศึกษาไทยเรียนต่อต่างประเทศ ชาวต่างชาติหลายคนก็หางานทำที่เมืองไทยด้วย ไทยมีบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่ดี ขั้นตอนจดทะเบียนธุรกิจก็ไม่ยาก ธนาคารไทยให้ความสำคัญกับการปล่อยเงินกู้แก่วิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม บริษัทที่เพิ่งประกอบกิจการสามารถได้รับเงินอุดหนุนไม่ยาก

นายเฉวียน เต๋อเจี้ยน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของธนาคารยูโอบีสิงคโปร์เคยศึกษาในแคนาดาเป็นเวลา 7 ปี และมีประสบการณ์ทำงานในธนาคารแคนาดา 1 ปี แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาทำงานที่สิงคโปร์ เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เศรษฐกิจเอเชียพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีโอกาสการทำงานมาก นักศึกษาสิงคโปร์ที่เรียนต่อประเทศแล้วกลับมาทำงาน หรือเปิดบริษัทเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สิงคโปร์มีประชากรน้อย ขาดแคลนบุคลากรระดับสูง รัฐบาลสิงคโปร์จึงยินดีต้อนรับนักศึกษาที่เรียนต่อต่างประเทศกลับมาทำงานในสิงคโปร์

แต่นักศึกษาอินโดนีเซียที่เรียนต่อต่างประเทศแล้วกลับมาทำงานมีไม่มาก ตามสถิติ นักศึกษาอินโดนีเซียที่เรียนต่อต่างประเทศเมื่อปี 2009 มีจำนวน 5 หมื่นคน แต่ที่เรียนจบแล้วกลับประเทศไม่ถึงครึ่งหนึ่ง

อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจาการ์ตากล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียควรให้การสนับสนุนทั้งด้านนโยบาย และเงินทุนเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียของบุคลากร อย่างในวงการการวิจัย นักวิจัยต้องมีอุปกรณ์ และต้นทุนพอสมควร ขณะเดียวกัน ควรยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาด้วย