วันที่ 8 พฤษภาคม นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีนพบกับนาย Prak Sokhonn รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา

โดยนายหวัง อี้ ระบุว่าโลกทุกวันนี้สันติภาพถูกสั่นคลอน การพัฒนาตกอยู่ในภาวะที่ลำบาก ความท้าทายระดับโลกที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้ ปธน.สี จิ้นผิงเสนอข้อริเริ่มการพัฒนาโลก ข้อริเริ่มความมั่นคงโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเสนอวิธีการแบบจีนเพื่อเดินหน้าสร้างระบบบริหารโลกที่เที่ยงธรรมและสมเหตุสมผลมากขึ้นจากการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในเอเชีย

นายหวัง อี้ ระบุว่าปัจจุบันอยู่บนเส้นทางที่ต้องเลือกระหว่างความสามัคคีกับความแตกแยก ความร่วมมือกับการเป็นปฏิปักษ์ เริ่มตั้งแต่เดือนหน้า จีน กัมพูชา อินโดนีเซีย และประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกลุ่มบริกส์ การประชุมผู้นำความร่วมมือเอเชียตะวันออก การประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 และการประชุม The Annual APEC Economic Leaders' Meetings ตามลำดับ

การบริหารโลกเข้าสู่ “ช่วงเวลาของเอเชีย” (Asian moment) ประชาคมโลกรอคอยให้ภูมิภาคเอเชียแสดงบทบาทแกนนำเพื่อการณ์นี้ จีนยินดีร่วมกับกัมพูชา อินโดนีเซีย และประเทศไทย ส่งเสียงแห่งยุคสมัยที่มุ่งเน้นสันติภาพกับการพัฒนา ร่วมส่งสัญญาณอันดีในการยึดหลักระบบพหุภาคี ร่วมสนับสนุนการคาดการณ์ที่มั่นคงแก่ภูมิภาคและโลกมากขึ้น ร่วมอุทิศกำลังของเอเชียเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก

นายหวัง อี้ ยังระบุด้วยว่าเมื่อเร็วๆ นี้ กัมพูชา อินโดนีเซีย กับประเทศไทยร่วมออกแถลงการณ์ที่ตอกย้ำว่าประชาคมโลกควรสามัคคีกันเพื่อรับมือกับความท้าทาย ควรเปิดเสรี เปิดให้ทุกๆ ฝ่ายเข้าร่วมการพัฒนา ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันของทุกประเทศในโลกที่คัดค้านการเป็นปฏิปักษ์ ส่งเสริมความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเดินหน้าความร่วมมือในระดับภูมิภาคและพหุภาคี

จีนเห็นว่าโลกควรรับฟังเสียงเอเชียมากขึ้น เคารพจุดยืนของเอเชีย และใช้ภูมิปัญญาเอเชียเป็นแบบอย่างโดยเชื่อว่า กัมพูชาในฐานะประเทศประธานหมุนเวียนอาเซียนจะแสดงบทบาทสร้างสรรค์พิเศษในเรื่องนี้ (BO/LING/CAI)