“คุณพ่ออายุยืนกว่า 80 ปีแล้ว ผมยังมีโอกาสดูแลท่านได้ทุกวัน ถือเป็นเรื่องที่มีความสุขมาก ๆ”

จีนมีคำกล่าวว่า ลูกสาวมักสนิทสนมและรู้ใจพ่อแม่ดี แต่สำหรับปู่หลิว ซุ่นไฉ วัย 84 ปีแล้ว นายหลิว เพ่ยเฉียง ลูกชายของเขาสนิทสนมและรู้ใจดีไม่แพ้กัน

เมื่อ 12 ปีก่อน ปู่หลิว ซุ่นไฉป่วยโรคหลอดเลือดสมองจึงเป็นอัมพาตและสมองเสื่อมจนจำลูกชายตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ จากนั้นมานายหลิว เพ่ยเฉียงจึงย้ายมาพักกับพ่อดูแลเขาเป็นอย่างดีมาตลอด 12 ปี ไม่เคยหยุดพักสักวันและไม่เคยบ่นสักครั้ง ที่จริงแล้วนายหลิว เพ่ยเฉียงเคยเป็นผู้จัดการร้านอาหาร 6 แห่งและเป็นนักสะสมหยกด้วย แต่เพื่อดูแลพ่ออย่างเต็มที่เขาจึงลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด เคยมีหลายคนถามว่าทำไมไม่จ้างคนดูแลเฉพาะ เขามักตอบว่าการที่ลูกดูแลพ่อแม่นั้นเป็นเรื่องที่สมควรและเขาเองก็ไม่วางใจให้คนอื่นมาดูแลพ่อด้วย

คุณปู่หลิว ซุ่นไฉ มักลืมเรื่องต่าง ๆ เช่น จำไม่ได้ว่าตนเองทานข้าวหรือยัง แปรงฟันแล้วหรือไม่ เข้าห้องน้ำแล้วหรือยัง แถมยังจำลูกของตัวเองไม่ได้ นายหลิว เพ่ยเฉียงบอกว่า “ผมมักจะถามเล่น ๆ ว่า ผมเป็นใคร แต่คุณพ่อพูดไม่ออกทุกที บางทีถ้าอาการดีขึ้น เขาก็มักจำผมผิดเป็นลูกคนอื่น”

ในวันอากาศดีนายหลิว เพ่ยเฉียงจะอุ้มพ่อมาอาบแดดหน้าบ้านเพื่อสูดอากาศสดชื่น ทุกวันนอกจากต้องนวดให้พ่อแล้วยังต้องป้อนอาหารและน้ำด้วย เนื่องจากเป็นอัมพาตพ่อของนายหลิวจึงมีร่างกายอ่อนแอด้านการย่อยอาหาร นายหลิว เพ่ยเฉียงจึงเตรียมอาหารหลากหลายในแต่ละวันให้พ่อรับประทาน เนื่องจากฟันไม่ดีนักนายหลิว เพ่ยเฉียงจึงหั่นผักและเนื้อสัตว์อย่างละเอียดทำเป็นข้าวต้ม หากเป็นเนื้อปลาก็จะเอาก้างออกก่อน เนื่องจากคุณพ่อทานได้ทีละน้อย ๆ ทุกครั้งที่ป้อนอาหารจึงต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง โดยแต่ละวันต้องป้อนหลายครั้งด้วย

“บางทีผมคุยเล่นกับคุณพ่อพลางหัวเราะว่า ตอนนี้พ่อกลับเป็นเด็กน้อยแล้ว คุณพ่อจะหัวเราะตาม ไม่รู้เพราะฟังเข้าใจหรือแค่หัวเราะตามผมเฉย ๆ” นายหลิว เพ่ยเฉียงกล่าว

พ่อของนายหลิว เพ่ยเฉียงต้องการคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทุกคืนนายหลิวเพ่ย เฉียงจะตื่นทุก 2 ชั่วโมงเพื่อช่วยพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนให้พ่อ ตลอด 12 ปีมานี้นายหลิว เพ่ยเฉียงไม่เคยไปเที่ยว บางทีติดงานต้องกลับดึกก็จะกลับถึงบ้านก่อน 3 ทุ่มเพราะเป็นเวลาที่ต้องอาบน้ำให้พ่อ เขากล่าวว่า ถึงแม้พ่ออาจไม่รู้แล้วว่าผมเป็นลูกชายแต่เขาย่อมรู้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเป็นคนสนิทของเขาแน่นอน

นายหลิว เพ่ยเฉียง กล่าวว่า คนอื่นอาจจะรู้สึกว่าการดูแลพ่อป่วยเป็นอัมพาตและสมองเสื่อมมา 12 ปีนั้นเป็นเรื่องยากมาก แต่ผมเคยชินกับชีวิตอย่างนี้มานานแล้ว จีนมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เคารพและดูแลผู้สูงอายุมาโดยตลอด ผมแค่ทำเรื่องที่ควรทำในฐานะลูกชายไม่มีอะไรน่าชื่นชมเลย พ่อผมดูแลผมมาตั้งแต่เด็กตอนนี้เขาป่วยผมกต้องมีความกตัญญู พ่ออายุยืนกว่า 80 ปีแล้ว ผมยังมีโอกาสดูแลได้ทุกวัน ถือเป็นเรื่องที่มีความสุขมาก ๆ (Tim/Ldan)